“โจ้ ยุทธพงศ์” อัด “ประยุทธ์” ทำงบ 65 ไม่ตอบโจทย์แก้ ศก.ยุคโควิด ซัด ยังไม่เลิกจัดซื้ออาวุธ ให้เหล่าทัพ พบงบประมาณ “ซื้อเรือดำน้ำ” กว่า 25,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตกรรมาธิการงบประมาณปี 2564 กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ว่า ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 ม.ค.เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 จำนวน 3.10 ล้านล้านบาท
ลดลงจากวงเงินงบประมาณรายจ่าย ตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2564 จำนวน 185,962 ล้านบาท เนื่องจากมีข้อจำกัดในการจัดเก็บภาษีที่จะลดลงในงบปี 2565 จำนวน 277,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ซึ่งจากวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่มีจำกัด
พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีนโยบายให้หน่วยงานรัฐดำเนินการดังนี้ คือ 1.ประหยัดงบประมาณ ใช้งบให้มีประสิทธิภาพ 2.ให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการให้มีรายได้เพียงพอ 3.ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ 4.การเพิ่มระดับความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว 5.การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนเป็น ส.ส.มากว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหน ที่ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีลดลงกว่า 200,000 ล้านบาทเหมือนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะงบปี 2565 ในช่วงที่ประเทศกำลังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักจาก ปัญหาโรคระบาดโควิด รัฐบาลต้องมีหน้าที่สำคัญที่สุด คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในส่วนของภาครัฐคือการลงทุน โครงการภาครัฐต้องเพิ่มขึ้น เพิ่มให้ประชาชนค้าขายทำธุรกิจได้ คนจะได้มีรายได้และมีงานทำเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ภาคเอกชนที่ทำธุรกิจกำลังจะตายสนิท เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ภาคการท่องเที่ยว ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เข้ามาได้
คนไทยเองก็ไม่มีท่องเที่ยว พล.อ.ประยุทธ์ บอกแต่ว่าให้ประหยัดงบประมาณ แต่ไม่มีนโยบายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนทั่วๆไปจากวิกฤตเศรษฐกิจโควิดได้อย่างไร แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่แตะต้องงบกองทัพต่างๆ เลย แม้แต่น้อย
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า และมีข้อสังเกต คือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่พูดเรื่องการปรับลดงบประมาณ ปี 2565 ในส่วนของกองทัพฯ โครงการจัดซื้ออาวุธ ต่างๆ ยังเดินหน้าเต็มที่ในงบปี 2565 เช่น กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่จากประเทศจีน จำนวน 2 ลำ งบฯ 25,000 ล้านบาท โครงการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ งบฯ 950 ล้านบาท กองทัพบก โครงการจัดซื้อ ฮ.โจมตี งบฯ 4,226 ล้านบาท
โครงการจัดซื้อรถถังใหม่ งบฯ 1,672 ล้านบาท โครงการจัดหายานเกราะ งบฯ 1,026 ล้านบาท ซื้อเครื่องบินหรู 1,350 ล้านบาท กองทัพอากาศ โครงการจัดซื้อเครื่องบินโจมตีเบา งบฯ 4,500 ล้านบาท โครงการพัฒนาการปฎิบัติการในห้วงอวกาศ งบฯ 1,470 ล้านบาท ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์พูดเรื่องการจัดทำงบประมาณปี 2565 ที่ลดลงไป 200,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มีรัฐบาลไหนเขาทำกัน
เพราะต้องเอางบมาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนในทุกๆ ภาคส่วน แต่คำถามคือทำไม พล.อ.ประยุทธ์ถึงไม่ยอมปรับลดงบประมาณของ 3 กองทัพเลย มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่จะต้องซื้อเรือดำนำ้ใหม่จากจีน 2 ลำในงบปี 2565 ในสภาวะประชาชนคนไทยที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสในทุกๆภาคส่วนของประเทศ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ