วิษณุ ยัน ไม่คืนทรัพย์ “ยิ่งลักษณ์” หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่ง ลั่นคดียังไม่จบ!





วิษณุ ไม่วิตก หลังศาลปกครองกลางสั่งยกเลิก คำสั่งให้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้ 35,000 ล้านบาท-เลิกอายัดทรัพย์ จากคดีจำนำข้าว บอกเป็นเรื่องปกติ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 เม.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลปกครองกลางสั่งยกเลิกคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ 35,000 ล้านบาท เพิกถอนคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ อันสืบเนื่องจากโครงการรับจำนำข้าว ว่า ในส่วนทรัพย์สินที่รัฐยึดมาเบื้องต้นยังไม่ถึง 100 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมยึดต่อ แต่เมื่อศาลปกครองกลางสั่งมาแบบนี้ ก็ต้องหยุด และอุทธรณ์ต่อไป ถือเป็นเรื่องธรรมดา

ก่อนหน้านี้ศาลได้ตัดสินคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ซึ่งสั่งให้ยึดทรัพย์ แต่ก็อุทธรณ์ไปแล้ว วันนี้ศาลมีคำสั่งให้หยุดยึดทรัพย์ก็ต้องหยุด แต่คดียังไม่ถึงที่สุด รัฐต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงการคลังก็รับทราบแล้วทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นไร เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุดก็ว่ากันไปตามขั้นตอน การยึดทรัพย์ก็มีชนะบ้างแพ้บ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้มีปัญหา และตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร

“อย่าไปพูดก็แล้วกันว่า พอฝ่ายไหนชนะก็มาบอกว่าศาลตัดสินยุติธรรม แต่พอแพ้ก็บอกว่าไม่ยุติธรรมสองมาตรฐาน เอียงสองมาตรฐาน ขอร้องอย่าไปคิดแบบนั้น ปล่อยให้คดีเดินไปจนถึงที่สุด”นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่าทรัพย์สินที่อายัดต้องค้างไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ต้องค้างเอาไว้ก่อน ทั้งนี้ทรัพย์สินที่ยึดมาได้ไม่กี่สตางค์ เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ก็ยึดมาเพียงนิดหน่อย ไม่ถึงหลักร้อยล้านบาทเท่านั้น

เมื่อถามว่าได้มีการขายทอดตลาดไปบ้างแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่แน่ใจ เจ้าหน้าที่เคยรายงานมาแต่เพียงว่ามีที่นู่นนิดที่นี่หน่อย ไม่ถึง 100 ล้านบาทที่ยึดมา ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ยึดทรัพย์มาแล้ว ขายทอดตลาดไปแล้ว เมื่อศาลมีคำสั่งเช่นนี้จะดำเนินการอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า คดียังไม่ถึงที่สุดก็หยุดเอาไว้ก่อน แต่จะให้คืนไปคงไม่ได้ เพราะหากหลังจากนี้ศาลสั่งให้ยึดอีกก็ต้องเอากลับไปกลับมา มันไม่ได้

กรณีนี้แค่หยุดไว้เท่านั้น อย่างบ้านพัที่ซอยโยธินพัฒนาก็ยึดไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร เจ้าของก็ยังอาศัยอยู่ เมื่อวันนี้ศาลปกครองมีคำสั่งก็ต้องหยุดไว้ทั้งหมด และดำเนินคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุดต่อไป จากนี้ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ ที่จะดำเนินการต่อไป อย่างไร โดยจะมีอัยการมาช่วยดำเนินการ

เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยงศาลปกครองกลางครั้งนี้ จะมีผลต่อสู้คดีอาญาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องเข้าใจว่าคดีนี้เริ่มต้นจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด เป็นการละเว้นในฐานะเป็นประธาน และต่อมา ป.ป.ช.ก็มีหนังสือแจ้งมาว่าให้ไปจัดการยึดทรัพย์ และเมื่อยึดทรัพย์แล้ว ผู้เสียหายก็ฟ้องถอนการยึด ซึ่งเหมือนกับกรณีนายบุญทรง อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นคำพิพากษานี้มีแต่คนสรุปมาให้ฟัง ก็ต้องปล่อยให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน เพียงแต่จะรู้สึกแย้งกับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้จำเลยสามารถนำคำพิพากษาดังกล่าวไปต่อสู้ต่อได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขายังไม่ได้ทำอะไรหรอก จนกว่าคดีจะถึงที่สุดก่อน ไม่มีใครทำอะไร เมื่อถามว่าผลตัดสินของศาลปกครองกลางเช่นนี้ เป็นสิ่งน่าวิตกในการต่อสู้คดีของรัฐหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าแพ้คดีก็ต้องวิตกอยู่ดีนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้วิตกอะไรมาก เพราะยังมีขั้นตอนที่สามารถดำเนินการต่อไปจนถึงที่สุดได้

เมื่อถามว่าไม่สามารถกล่าวอ้างได้ใช่หรือไม่ ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีความผิด นายวิษณุ กล่าวว่า ยังพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่วินิจฉัยไว้ว่ามีความผิดยังคงอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าคำวินิจฉัยศาลปกครองกลางและศาลอาญาที่แย้งกันจะมีผลอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังคิดไม่ออก แต่การเริ่มต้นการยึดทรัพย์ก็เพราะศาลฎีกาฯ ตัดสินว่าผิด ป.ป.ช.ถึงได้ให้ไปยึดทรัพย์ เราก็ไปดำเนินการยึดทรัพย์ แล้วศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่ายังไม่ผิด ก็ต้องอุทธรณ์ขึ้นไป ซึ่งก็มีประเด็นให้อุทธรณ์ได้ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าหลายคนเข้าใจผิดหลังศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยออกมา โดยคิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถเดินทางกลับไทยได้ เนื่องจากไม่มีความผิด นายวิษณุ กล่าวว่า “ก็กลับมาสิ ถ้าอยากจะกลับมา ไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องย้ำและขีดเส้นใต้ไว้ว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด หรือแม้แต่คดีของนายบุญทรง ก็ยังไม่ถึงที่สุด ถ้าถามว่าผิดหรือไม่ในขณะนี้ รัฐก็ยังมีคำพิพากษาของศาลฎีกาว่าผิด เพราะถ้าเริ่มต้นศาลไม่บอกว่าผิด เราจะไปยึดทรัพย์เขาได้อย่างไร”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าศาลปกครองสูงสุดตัดสินว่าไม่ผิดจะย้อนแย้งกับศาลฎีกาฯหรือไม่ นายวิษณุ อย่า เพิ่งไป”ถ้า”แบบนั้น เรื่องนี้เขาไม่ทำกัน เตรียมกันไว้ได้แต่เขาไม่ตอบกันในที่สาธารณะ “ไม่เช่นนั้นไม่คุณก็ผมคนหนึ่ง ต้องละเมิดอำนาจศาลแน่”

ข่าวจาก : Khaosod Online

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: