วันที่ 14 เม.ย. บีบีซี รายงานกระแสวิตกกังวลในความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดย บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) บริษัทอุตสาหกรรมยาและสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
ภายหลังพบผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ส่งผลให้อย่างน้อย 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 4 ประเทศ และแอฟริกาใต้ ประกาศระงับการฉีดวัคซีนของจอห์นสันเป็นการชั่วคราว
การระงับใช้วัคซีนจอห์นสันเกิดขึ้นหลังจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) แถลงพบกรณีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนจอห์นสันมีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน 6 คน โดยทั้งหมดเป็นผู้หญิง อายุระหว่าง 18-48 ปี และเริ่มมีอาการปรากฏราว 6-13 วันหลังได้รับวัคซีน
แม้กรณีความผิดปกติจะเกิดขึ้นในจำนวนต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนของจอห์นสันมากกว่า 6.8 ล้านโดส แต่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และอีก 1 คนอาการสาหัส เอฟดีเอจึงตัดสินใจออกคำแนะนำให้ระงับการฉีดวัคซีนเป็นการชั่วคราวเพื่อเร่งตรวจสอบและประเมินความปลอดภัย
ทั้งนี้ เอฟดีเออนุมัติให้ใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่วัคซีนที่ใช้อย่างแพร่หลายในประเทศเป็นวัคซีนของไซเฟอร์-บิออนเทค และวัคซีนของโมเดอร์นา ส่วนวัคซีนของจอห์นสันฉีดให้ประชาชนคิดเป็นร้อยละ 3 ของผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมดของประเทศ
ส่วนสถานการณ์โรคโควิดของสหรัฐยังรั้งอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุดในโลก ทะลุ 32 ล้านคน หลังมีผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอีก 77,720 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 577,179 ราย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ