กินฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิดได้จริงไหม แล้วต้องกินอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพในการเสริมภูมิคุ้มกัน ลองมาดูเลย
สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันอย่างฟ้าทะลายโจรกำลังได้รับความสนใจ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ดูท่าจะไม่แผ่วไปง่าย ๆ ทว่าการกินฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมเกราะป้องกันให้สุขภาพอย่างปลอดภัย คือช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้โดยไม่ส่งผลข้างเคียงที่อันตรายนั้น เราควรกินฟ้าทะลายโจรในปริมาณเท่าไรดี พร้อมไขข้อสงสัย สรุปแล้วฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด 19 ได้ไหมนะ
ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด 19 ได้ไหม
สำหรับประเด็นนี้ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้ข้อมูลไว้ว่า ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด 19 ไม่ได้ เนื่องจากสารสำคัญในฟ้าทะลายโจรไม่สามารถป้องกันการเข้าสู่เซลล์ของเชื้อไวรัสได้ จึงห้ามกินเพื่อป้องกันโควิด 19
ทว่าสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรคือมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และอาจช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อจากหนักให้เป็นเบาได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรต้องกินฟ้าทะลายโจรในปริมาณที่เหมาะสม
วิธีกินฟ้าทะลายโจร ใครควรกินเท่าไร ยังไงบ้าง
เนื่องจากมีความสับสนในเรื่องการกินฟ้าทะลายโจรอยู่พอสมควร ดังนั้นเรามาดูกันชัด ๆ อีกทีว่า แต่ละคน แต่ละเคส ควรกินฟ้าทะลายโจรในปริมาณเท่าไร ที่จะให้ผลดีและปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งต้องบอกว่า ยาฟ้าทะลายโจรที่มีขายอยู่ในท้องตลาด ปัจจุบันมี 2 แบบ คือ แบบผงยาฟ้าทะลายโจรอบแห้ง และสารสกัดหยาบ ปริมาณที่กินจึงต่างกันไปด้วย
สำหรับบุคคลทั่วไปที่กินเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน และยังไม่มีอาการป่วย
ในการกินฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง หากกินเป็นชาฟ้าทะลายโจร กินใบฟ้าทะลายโจรสด ๆ หรือกินฟ้าทะลายโจรในรูปแบบอาหารและเครื่องดื่ม ก็สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณสารสกัด เพราะส่วนมากจะอยู่ในระดับที่ไม่อันตราย
แต่หากกินฟ้าทะลายโจรในรูปแบบสารสกัด หรือแคปซูลชนิดผงอบแห้ง แนะนำให้กินเพียงวันละ 10-20 มิลลิกรัมเท่านั้น และไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 5 วัน โดยอาจหยุดกินสัก 2 วัน แล้วกลับมากินต่ออีก 5 วัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรกินฟ้าทะลายโจรนานเกิน 3 เดือน และต้องพึงระวังอาการข้างเคียงด้วย
ทั้งนี้ ฟ้าทะลายโจรที่วางจำหน่ายแต่ละบริษัทมีขนาดแคปซูลและปริมาณสารแอนโดรกาโฟไลด์ไม่เท่ากัน จึงควรอ่านฉลากยาก่อนรับประทานด้วย
สำหรับคนที่มีอาการป่วย เช่น เจ็บคอ มีไข้ หรือไอแห้งร่วมกับอาการเจ็บคอ
ให้กินฟ้าทะลายโจรขนาดปกติ คือ กรณีกินผงยาบรรจุแคปซูล ให้กินตามน้ำหนักครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร แต่หากกินแบบแคปซูลสารสกัด ให้กินได้วันละ 60 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง หรือคำนวณจากปริมาณสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ในแคปซูล เช่น หากมีสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ 20 มิลลิกรัม ต่อ 1 แคปซูล ก็ควรกินครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง เป็นต้น โดยกินเป็นเวลา 3-5 วัน หากหายก่อนให้หยุดยาได้
สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดโควิด 19 แต่ยังไม่มีอาการป่วย
หากพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่พักอาศัย และเรากลายเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำหรือเสี่ยงปานกลาง สามารถรับประทานสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์จากสารสกัดฟ้าทะลายโจรในปริมาณ 60 มิลลิกรัมต่อวัน หรือรับประทานสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณ 20 มิลลิกรัม ครั้งละ 3 แคปซูล ก่อนอาหารเช้าและกินติดต่อกัน 5 วัน หยุดพัก 2 วัน เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย หรือหากกักตัวอยู่บ้านก็ไม่ต้องกินก็ได้
สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่แสดงอาการ
จากการศึกษาพบว่า หากใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัม ต่อวัน ภายใน 72 ชั่วโมง หลังผู้ป่วยเริ่มแสดงอาการโควิด 19 ฟ้าทะลายโจรจะช่วยให้อาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ มีอาการดีขึ้นภายใน 3 วัน หลังจากได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร ที่สำคัญยังไม่พบอาการข้างเคียงและค่าตับ ค่าไต ของผู้ป่วยยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ดังนั้นหากในผู้ป่วยโควิด 19 ที่แสดงอาการ แพทย์จึงอาจให้รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัม ต่อวัน โดยกินสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณ 20 มิลลิกรัม ครั้งละ 3 แคปซูล แบ่งรับประทาน 3 เวลา คือ ก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ติดต่อกัน 5 วัน หยุดพัก 2 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการรักษา
ทั้งนี้ การใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรในปริมาณที่สูงกว่าปกติควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัยนะคะ เพราะฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นจัด อาจทำให้รู้สึกหนาว มือ เท้า เย็น และมีเสมหะเยอะ หรือทำให้เสมหะหนืดขึ้นได้ นอกจากนี้ฟ้าทะลายโจรยังมีข้อห้ามใช้ในคนบางกลุ่มด้วย
ใครไม่ควรกินฟ้าทะลายโจรบ้าง
แม้ฟ้าทะลายโจรจะมีสรรพคุณดีต่อภูมิคุ้มกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะกินฟ้าทะลายโจรได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะในคนกลุ่มนี้ยิ่งไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจรเลยค่ะ
1. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
2. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
3. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูมาติก
4. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
5. ผู้ที่เป็นความดันต่ำ เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดความดันเลือดได้
6. สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร
7. ผู้มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคไต โรคตับ โรค SLE หรือโรครูมาตอยด์ เพราะอาจทำให้อาการของโรคกำเริบได้
8. ผู้ที่รับประทานยาในกลุ่มป้องกันเลือดแข็งตัว เช่น วาร์ฟาริน ยาแอสไพริน เป็นต้น
9. ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ฟ้าทะลายโจร หรือหากรับประทานครั้งแรกมีผื่นคันขึ้นต้องหยุดใช้
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้เข้าข่ายผู้ควรระวังการใช้ฟ้าทะลายโจรตามข้างต้น ทว่าด้วยความที่ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทางยา ดังนั้นแม้จะมีสุขภาพร่างกายปกติดีก็ควรต้องระมัดระวังในการใช้ฟ้าทะลายโจรไว้ด้วย
ข้อควรระวังเมื่อใช้ฟ้าทะลายโจร
หากใช้ฟ้าทะลายโจรไม่ถูกวิธีหรือเกินขนาดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้นจึงควรรู้ข้อควรระวังก่อนกินฟ้าทะลายโจรไว้ด้วยนะคะ เช่น
* อาจมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว ใจสั่น หรือวิงเวียนศีรษะ
* อาจมีอาการแพ้ยา เช่น ปากบวม หน้าบวม ตาบวม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
* หากใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาอาการหวัดติดต่อกัน 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์
* ไม่ควรกินฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเกิน 5 วัน เพราะอาจเสี่ยงกับอาการที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ตัวเย็น มีอาการแขน-ขาชาหรืออ่อนแรง โดยเฉพาะหากกินติดต่อกันเกิน 3 สัปดาห์ นอกจากนี้การกินติดต่อกันเป็นเวลานานยังส่งผลเสียต่อตับและไต
* ฟ้าทะลายโจรอาจบดบังอาการไข้ของโควิด 19 ได้ ดังนั้นควรชั่งน้ำหนักให้ดีว่าจำเป็นต้องกินฟ้าทะลายโจรแค่ไหน ซึ่งหากไม่ได้สัมผัสผู้ป่วยหรือไม่ได้เป็นผู้เสี่ยงสูง อาจไม่จำเป็นต้องกินฟ้าทะลายโจรก็ได้
สมุนไพรไม่ว่าจะชนิดใดย่อมมีทั้งประโยชน์และโทษที่ควรต้องระวัง อย่างฟ้าทะลายโจรก็เช่นกัน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนรับประทานด้วย และอย่างไรก็ตาม การเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย คงไม่ใช่แค่การกินฟ้าทะลายโจรแน่นอน แต่เราควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ร่วมกับการออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหากต้องการอยู่รอดปลอดภัยจากโควิด 19 เมื่อจำเป็นต้องออกจากบ้าน ก็อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ และรักษาระยะห่างด้วยนะคะ
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ