กองปราบฯ จับกุม โครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ขณะที่ ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ ประธานโครงการ “คืนคุณแผ่นดิน” หัวหน้าเครือข่ายหลบหนี พบประวัติหน้าสนใจ เคยโชว์รอยสักที่มีข้อความ “ทรงพระเจริญ” ยันว่าหากเป็นไอโอจริง ก็เป็นไอโอดี
14 พ.ค.2564 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกัน เช่น มติชนออนไลน์ เดลินิวส์ ว่า วันนี้ที่กองบังคับการปราบปราม ตำรวจร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด ทั้งใน กทม.และปริมณฑล
เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายบริษัทชื่อดังที่หลอกลวงนักลงทุน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย คือ
พ.ท.พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข ประธานโครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม อายุ 33 ปี สิริมา เนาวรัตน์ อายุ 37 ปี และ กิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ อายุ 40 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 2 รายคือ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการ “คืนคุณแผ่นดิน” ทำหน้าเปรียบเหมือนตัวการใหญ่ หรือ หัวหน้าขบวนการ และ กิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือ
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงกระจายกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่ายังคงอยู่ภายในประเทศ นอกจากนี้ก็จะเร่งตรวจสอบความเชื่อมโยงทางการเงินและทรัพย์สินต่างๆ ของเครือข่ายดังกล่าว เพื่อตามยึดทรัพย์แล้วนำเข้าสู่กระบวนการชดใช้เยียวยาต่อผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายที่ถูกจับกุมนั้น จากการสอบสวนทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ และส่งตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนกำหมายต่อไป
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. กล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ร่วมกันตั้งบริษัทขึ้นมาหลายแห่งในลักษณะเครือข่ายใหญ่ ก่อนหลอกชักชวนให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักลงทุนนำเงินมาร่วมลงทุนในหลายรูปแบบ อ้างจะได้รับผลตอบแทนสูง โดยช่วงแรกจะทำทีจ่ายเงินค่าตอบแทนจริง เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายตายใจนำเงินมาลงทุนเพิ่ม จากนั้นจะเริ่มบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนหรือคืนเงินลงทุนให้กับผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนจะขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อนับพันราย มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท ซึ่งมีการรวมตัวเข้าแจ้งความไว้ที่ บก.ปอศ
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ด้วยความที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงมูลความเสียหายที่ค่อนข้างสูง ทาง บช.ก.ได้สั่งให้ดำเนินการในรูปแบบของคณะทำงาน ประกอบด้วย บก.ป. บก.ปอศ. และ บก.ปอท. เพื่อเร่งติดตามจับกุมจนมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 6 คน พร้อมกับเปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนี้ และตรวจยึดเอกสารหลักฐานต่างๆได้อีกจำนวนมาก ซึ่งคงเหลือผู้ต้องหาอีกเพียง 2 คน ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี จึงอยากฝากถึงผู้ต้องหาที่เหลือว่า หากมั่นใจว่าไม่ผิดก็ขอให้เข้ามามอบตัว เจ้าหน้าที่พร้อมให้ความเป็นกับทุกฝ่าย ขอให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
“สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพของนักการเมืองระดับประเทศไปร่วมงานเปิดตัวบริษัทในเครือของกลุ่มผู้ต้องหา จะต้องถูกเชิญตัวมาสอบสวนหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ยังไม่สามารถบอกได้เนื่องจากต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าจะมีความเกี่ยวข้องหรือไม่” ผบก.ป. กล่าว
พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส ผกก.4 บก.ปอศ. เปิดเผยพติกรรมการหลอกลวงของกลุ่มผู้ต้องว่า มีด้วยกัน 5 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.เปิดบริษัทท่องเที่ยว ชักชวนผู้เสียหายซื้อแพ็กเกจทัวร์ แต่ไม่มีการจัดท่องเที่ยวจริง 2.ชวนนำเงินมาร่วมลงทุนในรูปแบบสหกรณ์ อ้างให้ปันผลสูง แต่สุดท้ายก็ไม่มีปันผล 3.ชักชวนลงทุนซื้อ ขายสินค้าแบรนด์เนมออนไลน์ จากทางบริษัทในเครือผู้ต้องหาแล้วปล่อยเช่า ซึ่งทางกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าจะเป็นผู้ควบคุมบริหารจัดการค่าตอบแทนให้ทั้งหมดโดยที่ผู้เสียหายไม่เคยพบเห็นหรือจับต้องตัวสินค้าจริงๆแต่อย่างใด
4.ชักชวนให้นำเงินสดหรือทองคำมาเข้าร่วมในระบบกองทุนส่วนตัวของกลุ่มผู้ต้องหา โดยอ้างว่าในทุก 21 วันจะได้รับเงินตอบแทนกลับคืนคิดเป็นร้อย 9.5 ของเงินลงทุน และ 5.ชักชวนให้ลงทุนซื้อทองคำจากร้านจำหน่ายทองคำทั่วไป แล้วนำทองคำพร้อมใบเสร็จมาลงทุนตามโปรโมชั่นของบริษัทฯ โดยยอดการลงทุนคำนวณจากราคาทองคำตามที่ระบุในใบเสร็จ ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลกำไรตอบแทนร้อยละ 43.5 ของเงินลงทุน โดยจะแบ่งจ่ายกำไรเป็น 2 งวด พร้อมกับแบ่งจ่ายคืนเงินต้นเป็นงวดๆ รวม 10 งวด
สำหรับ ประสิทธิ์ นั้นพบว่า เคยมีข้อพิพาทกับ พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ แกนนำคณะก้าวหน้า หลังถูก พรรณิการ์ ออกมาเปิดโปงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกองทัพไอโอ หรือปฏิบัติการข่าวสารของกองทัพ และให้กองทัพใช้เซิร์ฟเวอร์ฟรี จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมเมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
โดยในรายการ “ถามตรงๆกับจอมขวัญ” เมื่อต้น ธ.ค.56 ประสิทธิ์ เปิดอกโชว์รอยสักที่มีข้อความ “ทรงพระเจริญ” ยืนยันว่าหากเป็นไอโอจริง ก็เป็นไอโอดี อีกทั้งยังท้า พรรณิการ์ สาบานต่อหน้าพระนเรศวร ด้วย
จากการสืบค้นยังพบวิดีโอคลิปที่เผยแพร่ ทางช่อง “Sawadee” เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ค.62 ระบุด้วยว่า เนื้อร้อง ทำนอง โดย แอ๊ด คาราบาว ซึ่งมีข้อความในเนื้อเพลงด้วยว่า “ประธานประสิทธิ์ เจียวก๊กที่เรารัก คือผู้มากทั้งความดีและทรัพย์สิน ชื่อเสียงบารมีที่พวกเราได้ยิน ติดปีกโบยบินสู่โลกสากลยังภาคภูมิ ชื่อเสียงบารมีที่พวกเราได้ยิน ติดปีกโบยบินสู่โลกสากลตลอดกาล”
ขณะที่โครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” ที่เป็นประเด็นนี้ เมื่อ ส.ค.63 สถาบันทิศทางไทยเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ว่า ยอดจองทะลุ 88,888 แพ๊กเกจ เต็มภายใน 1 ชั่วโมง ของวันแรกที่เปิดโครงการ อีกทั้งยังระบุด้วยว่า แพ๊กเกจจอง 50,000 บาท ใช้บริการได้ 100,000 บาท รับคูปองฟรี 2,800 บาทได้รับความนิยมสูงสุด
โครงการยังมีการให้สื่อมวลชนไปเที่ยว ตัวอย่าง ‘อีจัน’ ที่เขียนถึงใน url : https://www.ejan.co/travel-and-food/5f3a376a4f419 หัวข้อ “สุดประทับใจ อีจันบุกเที่ยว จ.กระบี่ 3 วัน 2 คืน กับโครงการเที่ยวเพื่อชาติ” โดยในรายงานระบุว่า “ไปเที่ยว จ.กระบี่ “3 วัน 2 คืน” พร้อมกับพี่ๆ สื่อต่างๆ”
ข่าวจาก : prachatai
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ