โควิดยังไม่ซา ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก แห่เข้าโรงจำนำ ยอดขั้นต่ำวันละล้าน ไม่ว่าจะเป็น สว่าน เลื่อย นาฬิกา หม้อหุงข้าว ต่างถูกนำมาจำนำ
22 มิ.ย. 2564 – นายสาธิต เหมทานนท์ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทำให้ประชาชนขาดสภาพคล่อง รายได้ลดน้อยลงมาก หลายครอบครัวมีความจำต้องต้องหมุนเงิน โดยเลือกที่จะนำสิ่งของในบ้าน เข้าโรงรับจำนำ เพื่อเปลี่ยนเป็นเงิน นำไปหมุนเวียนใช้จ่ายและซื้อสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต
สิ่งที่ประชาชนนิยมนำมาจำนำ อันดับหนึ่งคือ ทองคำรูปพรรณ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเป็นหลักประกันที่ใช้แปลงเป็นเงินได้ง่าย ซึ่งลูกค้าประกอบด้วยหลากหลายอาชีพ ทั้งประชาชนทั่วไป เกษตรกร ค้าขาย และกลุ่มข้าราชการ ทั้งนี้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นกิจการของรัฐ คิดดอกเบี้ยราคาถูกในอัตราร้อยล่ะ 0.25 ต่อเดือน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ทำให้ประชาชนนิยมมาใช้บริการ
สำหรับสิ่งของอื่นที่ประชาชนนำมาจำนำนั้น ได้แก่ เครื่องมือช่าง เลื่อย สว่าน กบใสไม้ เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานเหล่านี้ถูกเลิกจ้าง หรือไม่มีงาน ทั้งนี้พบว่ามีบางรายนำเรือประมงพื้นบ้าน อุปกรณ์เรือมาจำนำ แต่เนื่องจากเป็นของที่มีเลขทะเบียน ไม่สามารถรับจำนำได้
ปัจจุบันผู้ใช้บริการโรงรับจำนำทั้งพนักงาน ลูกจ้าง ร้านอาหาร สถานประกอบการท่องเที่ยว ฯลฯ จำเป็นต้องนำสิ่งของที่มีมูลค่าน้อยราคาไม่กี่ร้อยบาทมาจำนำมากขึ้น เช่น นาฬิการาคารับจำนำ 200 บาท หม้อหุงข้าว 200 บาท ซึ่งแตกต่างจากช่วงก่อนการแพร่ระบาดเชื้อโควิด ที่มีลูกค้ารายใหญ่ สิ่งของจำนำที่มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้สำรองเงินสดเพิ่มจาก 50 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท เพื่อรองรับการจำนำและไถ่ถอน ในช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งแต่ละวันมีประชาชนมาใช้บริการกว่าวันละ 100 คน ยอดรับจำนำไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ