แสนสิริอัดงบ 40 ล้านบาท ปูพรมฉีดซิโนฟาร์ม 37,000 โดส พนักงาน-ครอบครัว-สังคม ดีเดย์! ฉีดวันแรก 30 มิ.ย.นี้ ที่โรงพยาบาลเครือ BDMS วางเป้าพนักงานแสนสิริทุกคน-ครอบครัวต้องได้วัคซีน 100% ต้น ก.ค.64 พร้อมรุกขยายผลช่วยสังคม ด้วยกลยุทธ์ “แสนสิริและสังคม..คนละครึ่ง” จัดกว่า 50% ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรรให้คู่ค้า พันธมิตร ชุมชน และผู้ด้อยโอกาส
วันที่ 25 มิถุนายน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอํานวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ขอขอบคุณราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่พิจารณาเห็นชอบจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Vaccine) ให้แก่บริษัทฯ จํานวน 37,000 โดสแก่แสนสิริ
ซึ่งการขอจัดสรรวัคซีนในครั้งนี้เนื่องจากแสนสิริ เห็นความสําคัญของการฉีดวัคซีนทั่วถึงที่สุดเร็วที่สุด อีกทั้งวัคซีนต้องเข้าถึงได้สําหรับคนทุกกลุ่มในสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาส
โดยแสนสิริได้วางกลยุทธ์การจัดสรรวัคซีน “แสนสิริและสังคม…คนละครึ่ง” เพื่อดูแลพนักงานแสนสิริทุกคนและ ครอบครัว ตลอดจนคืนประโยชน์แก่สังคมอย่างดีที่สุดตามกําลังเต็มที่ของแสนสิริเท่าที่จะทําได้ ด้วยการจัดสรรวัคซีน 37,000 โดส ให้แก่พนักงานแสนสิริและครอบครัวจํานวน 18,000 โดส หรือสําหรับ 9,000 คน คิดเป็น 50% ของ ปริมาณวัคซีนที่ได้จัดสรรทั้งหมด และอีกกว่า 50% หรือ 19,000 โดส ให้แก่คู่ค้า พันธมิตร ชุมชนรอบข้าง และ ผู้ด้อยโอกาส จํานวนรวมถึง 9,500 คน ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำ 10% ในการบริจาควัคซีนเพื่อสังคมที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ระบุ ไว้ เพื่อทําประโยชน์สู่สังคมและประเทศไทยจะได้เดินหน้าพร้อมรับการเปิดประเทศในไตรมาส4 อย่างมีประสิทธิภาพ
“พนักงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร เมื่อทุกคนเต็มที่ในทํางานและดูแลลูกค้ากว่า 100,000 คนอย่างดีที่สุด องค์กรก็พร้อมจะทําเต็มที่ที่จะดูแลให้พนักงานทุกคนมีความอุ่นใจปลอดภัยในการทํางานและใช้ชีวิต
ซึ่งเรายังดูแล เพิ่มเติมต่อไปยังครอบครัวพนักงานและผู้อยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับพนักงานอีกด้วย จะได้ช่วยคลายความกังวลใจของพนักงานในการจัดหาวัคซีนแก่ครอบครัว ซึ่งเมื่อพนักงานแสนสิริทุกคนในทุกโครงการ อาทิ พนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ ได้รับการฉีดวัคซีน 100% ก็ถือเป็นการยกระดับมาตรการความปลอดภัยอุ่นใจในการ อยู่อาศัยในโครงการแสนสิริทุกโครงการได้อย่างดี” คุณเศรษฐา กล่าว
นอกจากนั้น วัคซีนซิโนฟาร์มที่จะจัดสรรจํานวน 19,000 โคสให้แก่สังคมด้วยการฉีดให้แก่คู่ค้า พันธมิตร ชุมชน และ ผู้ด้อยโอกาสนั้น แสนสิริยังจะจัดสรรวัคซีนส่วนหนึ่งให้แก่ชุมชนรอบข้างสิริ แคมปัสซึ่งเป็นสํานักงานใหญ่ของแสนสิริที่ ตั้งอยู่ที่ T77 สุขุมวิท77 อาทิ วินมอเตอร์ไซค์ พนักงานในฮาบิโตะ มอลล์ แม่ค้าแผงลอย ผู้ยากไร้ในชุมชน ฯลฯ รวมกว่า 2,000 ชีวิตด้วย
เพราะเราเล็งเห็นแล้วว่าคนกลุ่มนี้มีความลําบากในการถึงวัคซีน แสนสิริมาตั้งสํานักงานที่นี่ เราก็อยาก ให้ผู้ยากไร้และด้อยโอกาสที่ชุมชนนี้ได้รับโอกาสด้วย ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ยังเป็นการช่วย ให้ T77 เป็นคอมมูนิตี้ที่มีคนฉีดวัคซีนมากที่สุดและมีความปลอดภัยสูงสุดจากการระบาดของโควิด-19 แห่งหนึ่งของ ประเทศ
ทั้งนี้ จะมีการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มวันแรกในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ณ โรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS) จะ ฉีดต่อเนื่องวันละ 1,500 – 2,500 คน
เพื่อให้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมดจํานวน 18,500 คนได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม แรกภายในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2564 และฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2564 โดยแสนสิริจะรับผิดชอบค่าจัดซื้อวัคซีนและค่าใช้จ่ายในการดําเนินการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นรวม 40 ล้านทั้งหมด
การจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มจํานวน 37,000 โดส ด้วยกลยุทธ์ “แสนสิริและสังคม…คนละครึ่ง” นี้อยู่ภายใต้มาตรการ “Sansiri Care….เพราะเราห่วงใย” ที่แสนสิริมุ่งมั่นสร้างความอุ่นใจและปลอดภัยในวิกฤติการระบาดโควิด-19 โดยได้ทํา การช่วยเหลือ 4 เสาสังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมาตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน อาทิ การยกระดับมาตรการ ความปลอดภัยในโครงการ, การช่วยเหลือ SMEs ที่เป็นลูกบ้านแสนสิริ, การจัดตั้ง Sansiri Care Relief Fund กองทุน 5 ล้านบาทจากการระดมเงินส่วนตัวของคณะผู้บริหารระดับสูงเพื่อดูแลพนักงานแสนสิริและบริษัทในเครือ, การซื้อ ประกันภัยโควิด-19 แจกพนักงานทุกคน รวมถึงการบริจาคและสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขรวมมูลค่ากว่า 20 ล้าน เช่น การบริจาคเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การมอบรถตรวจโควิด-19 การสร้างห้องอาบน้ําให้แก่ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม การบริจาคเงิน 2,000,000 บาทแก่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นต้น
“วัคซีนเปรียบเสมือนเกราะที่ทําให้สังคมเดินหน้าต่อได้ วันนี้เราพอมีกําลังที่จะช่วยเหลือพนักงาน คู่ค้าและพันธมิตร รวมถึงสังคมให้เข้าถึงวัคซีนได้ง่ายขึ้น ก็ขอทําเต็มที่เพื่อเป็นฟันเฟืองหนึ่งของเครื่องจักรประเทศไทยในการลดความเสี่ยง ของการระบาดของโควิด-19 และเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศในไตรมาส 4 ปีนี้” คุณเศรษฐา ระบุ
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ