วัคซีนไฟเซอร์ เตรียมเข้าไทย 29 กรกฎาคม 1.5 ล้านโดส คุณหมอเผย ตอนนี้ด่านหน้าอาจได้แค่ 5 แสนโดส ด้านคุณหมออีกท่านมาเสริม ด่านหน้าอาจจะเหลือจริง ๆ แค่ 2 แสนโดส อีก 3 แสนโดส ไม่รู้หายไปไหน วอนใครมีข้อมูลช่วยตาม เอาไปใช้ตามวัตถุประสงค์จริง ๆ หรือไม่
วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 จากกรณีที่วัคซีนโควิด จากไฟเซอร์ ที่บริจาคโดยสหรัฐอเมริกา เตรียมพร้อมที่จะเข้าประเทศไทยในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ซึ่งการจัดสรรวัคซีนชนิดนี้ คาดว่าจะนำมาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นเข็มที่ 3 หลังจากที่วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ไม่เพียงพอที่จะต้านทานโควิดสายพันธุ์เดลตาได้
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กของ นพ.จิรรุจน์ กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ ได้ออกมาเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ตอนนี้ดูท่าทางว่าวัคซีนไฟเซอร์ในล็อตนี้ จะหายไปแล้ว 1 ล้านโดส โดยด่านหน้าได้รับการจัดสรรวัคซีนเพียง 5 แสนโดสเท่านั้น ดังนั้น วอนให้สื่อมวลชนช่วยสืบว่า วัคซีนนี้หายไปไหนด้วย
ต่อมา นายแพทย์เรืองฤทธิ์ กาญจนวนิช ได้ออกมาเผยว่า จากในตอนแรกที่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา เคยพูดผ่านคลับเฮาส์ ว่า วัคซีนไฟเซอร์จะมีการจัดสรรให้ด่านหน้ากว่า 7 แสนโดส แต่เมื่อ ศบค. ประกาศ กลับพบว่าด่านหน้าจะได้รับวัคซีนเพียง 5 แสนโดสทั่วประเทศ และล่าสุดมีการประชุม พบว่า วัคซีนด่านหน้าเหลือ 2 แสนโดสเท่านั้น
ทั้งนี้ ตนอยากทราบว่า วัคซีนที่เหลือ 3 แสนโดสหายไปไหน และจริง ๆ มีกฎเกณฑ์ให้คนทำงานด่านหน้าที่ต้องตรวจคนไข้ และจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงด ดังนั้น เพียงแค่ 2 แสนโดสจะเพียงพอหรือ
ทั้งนี้ หากวัคซีนไฟเซอร์ไปถูกที่ถูกทาง ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตนก็จะดีใจ อย่างตนเป็นอาจารย์หมอ ถือว่ามีความเสี่ยงปานกลาง จึงยังไม่ขอรับวัคซีนเข็มกระตุ้นในตอนนี้ แต่หากวัคซีน 3 แสนโดสหายไปอยูกับกลุ่มวีไอพี ตนไม่โอเคด้วย
อย่างไรก็ตาม แผนการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่จะเข้ามาในไทยนั้น พบว่า 5 แสนโดสจะกระจายไปยังบุคลากรด่านหน้าทั่วประเทศ, 8 แสนโดส ให้กลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้มีโรคเรื้อรัง
และหญิงตั้งครรภ์สัญชาติไทย, 1.5 แสนโดส ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง, 4.5 หมื่นโดส ให้ผู้ที่มีความจำเป็นเดินทางไปต่างประเทศ, 2.5 พันโดส ทำการวิจัย และ 4 หมื่นโดส สำรองไว้ส่วนกลาง
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ