ไฮโซลูกนัท ขอโทษคนไทย สุดละอายใจ เคยเป็นส่วนที่ทำให้ประเทศมาถึงจุดตกต่ำ

Advertisement

ไฮโซลูกนัท ขอโทษคนไทย สุดละอายใจ เคยเป็นส่วนที่ทำให้ประเทศมาถึงจุดตกต่ำ ไม่อาจกลับไปแก้ไขอดีต แต่พร้อมเปลี่ยนวันนี้และอยู่ข้างประชาชน พร้อมเดิมพันด้วยชีวิต เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ

จากกรณีที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ทายาทตระกูลธุรกิจดังระดับหมื่นล้าน และเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรุงเทพฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเตรียมถูกตัดขาดจากครอบครัว เพราะโดนยื่นคำขาดให้เลิกยุ่งการแก้มาตรา 112 แต่ตนทำไม่ได้จริง ๆ ลั่น จะขอยืนหยัดต่อสู้ข้างประชาชน

ล่าสุด วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ไฮโซลูกนัท ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nat Thanakitamnuay ระบุว่าเป็นคำขอโทษจากตนเองถึงประชาชนไทย ที่ผ่านมาตนอยู่กับความละอายใจมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตนเป็นส่วนหนึ่งที่นำพาประเทศไทยมาถึงจุดตกต่ำในทุกวันนี้ ตนไม่อาจกลับไปแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ในอดีตได้ แต่พร้อมที่จะเปลี่ยนในวันนี้ และยืนข้างกับประชาชน พร้อมเดิมพันด้วยชีวิต เพื่อภารกิจเปลี่ยนโครงสร้างประเทศไทย

นอกจากนี้ ไฮโซนัท ได้ออกมาชี้แจงข้อสงสัย และข้อกังขาเกี่ยวกับพฤติกรรม และแนวคิดทางการเมืองดังนี้

– ทำไมวันนั้นผมถึงได้โพสต์ด่า คุณทักษิณ ชินวัตร แบบนั้น ?

ผมในช่วงปี พ.ศ. 2553 ที่เต็มไปด้วยพลังความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในประเทศให้มันดีขึ้นได้ สร้างสังคมที่มีความยุติธรรม และ ยกระดับมาตราฐานความเป็นอยู่ของผู้คน

แม้จนถึงตอนนี้ ความคิดนี้ยังคงชี้นำผมอยู่เสมอ แต่ผมในวันนั้นยังคงขาดซึ่งประสบการณ์ ความรอบคอบ และการไตร่ตรองที่ดี บวกกับ สื่อและผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ที่บอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ผมได้รับฟัง จึงทำให้ผมในวันนั้น ถูกทำให้เชื่อว่า “พี่น้องเสื้อแดง และคุณทักษิณเป็นคนเลว”

มันทำให้ผมรู้ว่า ผมควรใช้อารมณ์ให้น้อยลงมาก ๆ และ วิเคราะห์เหตุการณ์อย่างรอบคอบ และ ละเอียดอ่อนกว่านี้ ผมกราบขออภัยแก่ทุกคนที่ผมเคยล่วงเกินทั้งการกระทำ และคำพูด ผมเสียใจกับความมุทะลุของตัวเองในวันนั้นจริง ๆ ครับ

– ทำไมถึงเข้าร่วมม็อบ กปปส. ในปี พ.ศ. 2557

ในปีที่ผ่านมา ผมได้โตขึ้น และการแสดงออกทางการเมืองก็ได้เข้มข้นขึ้นจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้น สิ่งที่อยากจะบอกคือ ผมขอโทษที่ตอนนั้นมีส่วนร่วมในการล้มการเลือกตั้ง, ชักชวนมวลชนออกมา และบานปลายจนทำให้รัฐบาลทหารเข้ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกละอายแก่ใจที่สุด เพราะสิ่งที่ทำในวันนั้นทำให้ประเทศมาถึงทางตันและเป็นอย่างทุกวันนี้

– เรื่องเหตุการณ์ขับรถพุ่งชนจักรยานยนต์ของกลุ่มพี่น้องเสื้อแดง ?

เหตุการณ์ขับรถชนพี่น้องเสื้อแดงในปี พ.ศ. 2553 ที่พูดกันว่า ผมเจตนาจะขับรถพุ่งชนพี่น้องเสื้อแดงนั้นไม่เป็นความจริงครับ ข้อเท็จจริงคือ บ้านผมอยู่ ซ.ต้นสน ผมต้องใช้เส้นทาง สี่แยกโรงเรียนมาแตร์เดอีและ แยกราชประสงค์ เพื่อกลับบ้านเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เด็ก และความคุ้นชินในเส้นทางนี้ ทำให้ผมไม่มีสติ ขับไปตามความคุ้นเคย และกว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ผมขับไปประจวบเหมาะจ๊ะเอ๋กับมวลชนเสื้อแดงที่เคลื่อนขบวนมาถึงจุดเกิดเหตุดังกล่าวพอดี

ผมได้พยายามหาทางออกโดยการขับรถตามรถคันอื่น ๆ ไป แต่ด้วยความที่รถคันที่ผมขับนั้นค่อนข้างสะดุดตา และอาจคิดว่าผมมีเจตนาเข้าไปก่อกวน จึงทำให้พี่น้องกรูกันเข้ามาที่รถผม ซึ่งผมที่มองไม่เห็นทาง จึงพยายามที่จะขับรถหนี และลงท้ายที่การขับชนข้าวของมั่วซั่วไปหมด จนสุดท้ายมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยออกไป และเหตุการณ์ดังกล่าวก็จบลงด้วยดี

ผมได้กล่าวขอโทษกับผู้เสียหาย และได้ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดของทุกคนเรียบร้อยครับ และวันนี้ผมต้องขอโทษในความประมาท และความไม่รอบคอบของผมอีกครั้งครับ

“สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกกับทุกคนให้ทราบว่า การแสดงออกทางการเมืองครั้งนี้ของผมไม่ได้ออกมาแค่ป้องกันตัวเอง หรือ แก้ต่างพฤติกรรมของตัวเองในอดีต แต่การแสดงออกทางการเมืองของผมครั้งนี้ ผมต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆ และการต่อสู้ครั้งใหม่ในรอบนี้ ต้องสู้เพื่อเปลี่ยนไปให้ถึงในระดับโครงสร้าง ต้องเปลี่ยนแปลงที่ต้นตอ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคน และ อนาคตของประเทศ”

ข่าวจาก : kapook

• Facebook
• Twitter
• Line