บึงกาฬ พบบุคลากรการแพทย์ติดโควิดรายแรก ปิดตึกศัลยกรรม กักตัวหมอ-คนไข้ตั้งแต่ 7-22 ส.ค.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มท.) พร้อมคณะ นำเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง จำนวน 1 เครื่อง อุปกรณ์ทางการแพทย์ชุด PPE จำนวน 350 ชุด อาหารแห้งและน้ำดื่ม ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสนามจังหวัดบึงกาฬ
โดยมีนายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 นพ.ภมร ดรุณ นพ.สสจ.บึงกาฬ พร้อมผู้บริหาร รพ.บึงกาฬ ร่วมเป็นสักขีพยาน
นพ.ภมรกล่าวว่า สำหรับบึงกาฬวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัด 66 ราย สะสม 1,004 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นคนไข้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นวันละ 60-80 ราย บางวันก็เป็นร้อย ยังมีผู้ป่วยนอกจังหวัดขอมารักษาวันนี้ 21 ราย สะสม 592 ราย รวมมีผู้ป่วยที่กำลังรักษาครองเตียงทั้งหมด 928 ราย จองคิวขอมารักษาวันนี้ 50 ราย
นพ.ภมรกล่าวว่า สำหรับเตียงรองรับในการรักษาตอนนี้ยังเพียงพอ ซึ่งในโรงพยาบาลมีอยู่ 450 เตียง ที่เหลืออีกกว่า 1,000 เตียง กระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ทั้งในโรงพยาบาลสนาม/ศูนย์พักคอย ทั้งในระดับอำเภอและตำบล ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ ที่ช่วยเหลือกันระบายผู้ป่วยที่อาการไม่หนัก หรือผู้ป่วยลาลง ไปประจำตาม รพ.สนามได้ ซึ่งก็ทำให้เตียงในโรงพยาบาลว่างมากขึ้น ซึ่งจังหวัดยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก 4-500 คน
นพ.ภมรกล่าวด้วยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พบคลัสเตอร์เกิดขึ้นในจังหวัดอยู่ 3 คลัสเตอร์หลักๆ คือที่ ต.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย ผู้ป่วยเป็นครู ไปเฝ้าแม่ที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลหนองคาย ต่อมาแม่เสียชีวิตนำศพกลับมาทำพิธีที่บ้าน ต่อมาได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลหนองคายว่าเตียงข้างๆ ติดโควิดให้ไปตรวจ แต่ด้วยติดงานศพจึงไม่ได้ไปตรวจ หลังเสร็จงานศพจึงไปตรวจพบติดโควิด
โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 30 คน และเสี่ยงต่ำอีกว่า 50 คน ซึ่งตรวจไปทั้งหมดแล้วพบว่ามีติดเชื้อ 10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนในครอบครัว
ซึ่งตอนนี้กำลังลงพื้นที่สอบสวนโรคอยู่และกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไว้ในบ้านพักที่อยู่ติดกัน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอดและคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ และจะตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อครบ 5 วัน
นพ.ภมรกล่าวว่า คลัสเตอร์ต่อมาในพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ ในตำบลวิศิษฐ์ เป็น 2 สามีภรรยา ทั้ง 2 คนไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกอำเภอเมือง ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากไหน อาจจะไปติดเชื้อมาจากที่อื่น หรือไปจังหวัดข้างเคียงมาบ้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
“และคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลบึงกาฬ มีเจ้าหน้าที่ในตึกศัลยกรรมคนหนึ่งตรวจพบเชื้อ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิดในตึกโควิดควบคู่ไปด้วย มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ก็ไปตรวจหาเชื้อ
ซึ่งก็ทำให้คนที่ทำงานภายในตึกศัลยกรรม ทั้งพยาบาล และคนไข้ทั้งหมดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ทางโรงพยาบาลบึงกาฬได้สั่งปิดตึกศัลยกรรมหญิงและชาย งดรับผู้ป่วยศัลยกรรม/ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ ยกเว้นกรณีเร่งด่วนและฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อกักตัวแพทย์พยาบาล รวมไปถึงคนไข้ ไม่ให้ออกจากตึกตั้งแต่วันที่ 7-22 ส.ค.
“ส่วนที่พักสำหรับแพทย์ พยาบาลจะมีรถรับ-ส่ง ระหว่างตึกศัลยกรรมไปโรงแรม กลับมาก็เข้าทำงานในตึกไม่ให้ออกไปไหน ตามมาตรการ Bubble and Seal ของกระทรวงสาธารณสุข เหมือนโรงงานในสมุทรสาคร
เพื่อควบคุมเชื้อไม่ให้หลุดออกมาสู่สังคมภายนอก และจะมีการตรวจหาเชื้อตามจำนวนวัน ตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งในกลุ่มเสี่ยงนั้นตรวจหาเชื้อพบอีก 2 ราย สำหรับผู้ที่มารับบริการที่ตึกศัลยกรรมหญิงและชาย ระหว่างวันที่ 1-6 ส.ค.ให้สังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการผิดปกติให้ติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที” นพ.ภมรกล่าว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ