รองโฆษกรัฐบาล แจง แนวทางเวชปฏิบัติฯ ฉบับล่าสุด ไม่ต้องสวอป ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการดีขึ้น แล้วแพทย์ให้กักตัวต่อที่บ้าน 14 วัน
วันที่ 14 ส.ค.2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่ขณะนี้ได้มีคำถามจากทั้งผู้ป่วยโควิด-19 และญาติผู้ป่วยว่าเหตุใดกรณีที่ผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาอาการดีขึ้นแล้วและแพทย์มีคำสั่งให้กลับบ้านไปกักตัวต่อบ้านจนครบ 14 วัน จึงไม่มีการตรวจสวอป (swab) ก่อนให้ออกจากสถานพยาบาลนั้น ในกรณีนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รายงานว่าเป็นการดำเนินการตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษาและการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล
กรณีโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงล่าสุด ณ วันที่ 4 ส.ค.2564 ตามข้อแนะนำจากคณะทำงานด้านการรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล (คณะกรรมการกำกับดูแลรักษาโควิด-19) ซึ่งเป็นคณะที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและคณะแพทย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ทำการปรับปรุงสม่ำเสมอตามสถานการณ์ของโรค
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ตามแนวเวชปฏิบัติฯฉบับล่าสุด ได้พิจารณาจากงานศึกษาแล้วพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หรืออาการดีขึ้นแล้ว อาจจะยังตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโควิด-19 ในน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ป่วยได้เป็นเวลานาน และเวลานี้ไวรัสมีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์อาจจะนาน สารพันธุกรรมที่ตรวจพบหลังจากผู้ป่วยมีอาการมานานแล้ว อาจเป็นเพียงซากสารพันธุกรรมที่หลงเหลือที่ร่างกายยังกำจัดไม่หมด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ การตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อหลังจากพ้นระยะกักตัวก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยรายนั้นยังแพร่เชื้อได้ ดังนั้นในแนวทางเวชปฏิบัติฯ โควิด-19 ฉบับล่าสุดนี้จึงระบุว่าไม่ต้องทำสวอปก่อนอนุญาตให้ผู้ป่วยออกจากสถานพยาบาล เพราะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการรักษา โดยแพทย์ผู้รักษาจะพิจารณาจากอาการเป็นหลัก แต่ตามแนวทางเวชปฏิบัติฯ ยังคงแนะนำให้ผู้ป่วยที่แพทย์จำหน่ายให้กลับไปกักตัวที่บ้านจนครบ 14 วัน ยังต้องปฏิบัติมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า เช่น การงดออกจากบ้านไปยังชุมชนทุกกรณี ยกเว้นการเดินทางไปโรงพยาบาลโดยการนัดหมายและการจัดการโดยโรงพยาบาล, การแยกห้องนอนจากผู้อื่นในครอบครัว ถ้าไม่มีห้องนอนแยกให้นอนห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 3-5 เมตร และต้องเป็นห้องที่เปิดให้อากาศระบายได้ดี, ใช้ห้องน้ำแยกถ้าไม่สามารถแยกได้ให้ให้เช็ดพื้นผิวที่มีการสัมผัสด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อหลังการใช้ทุกครั้ง, การสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับอยู่อื่น การแยกรับประทานอาหาร
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่ หรืออาการเดิมมากขึ้น เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้ติดต่อสถานพยาบาล หากต้องเดินทางมาสถานพยาบาล แนะนำให้สวมหน้ากากระหว่างเดินทางตลอดเวลา ส่วนกรณีไม่มีอาการใดๆ อีก หลังจากครบกำหนดการกักตัวตามระยะเวลานี้แล้ว สามารถประกอบกิจกรรมทางสังคม และทำงานได้ตามปกติตามแนวทางวิถีชีวิตใหม่ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น การทำความสะอาดมือ การรักษาระยะห่าง และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในการกักตัวที่บ้านสามารถสอบถามโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา หรือ สายด่วน 1422 หรือ 1668
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ