กรมควบคุมโรค พร้อม ผอ.รพ.รามาธิบดี ชี้แจงหลัง โซเชียลแชร์สนั่น มีข้อมูลผู้ได้รับฉีดวัคซีนเข็ม 4 หลุดออกมา เผย บุคคลดังกล่าวเป็น “แพทย์ รพ.รามาฯ” ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งบางประเทศยังไม่รองรับซิโนแวค และได้ฉีดเข็ม3 เป็น แอสตร้าฯ จึงจำเป็นต้องฉีดไฟเซอร์เข็ม 4
20 ส.ค. 64 จากรณีที่โซเชียล หลังมีการแชร์ ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบอินเล็กทรอนิกส์ ว่ามีการได้รับฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งหมด 4 เข็ม ซึ่งจากรูปภาพที่เผยแพร่ พบข้อมูลว่า เข็มที่ 1-2 คือ ซิโนแวค เข็มที่ 3 แอสตร้าเซนเนก้า และเข็มที่ 4 คือ ไฟเซอร์ ซึ่งการเว้นระยะระหว่างเข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 เพียงแค่ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น ทำให้มีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หนังสือรับรองดังกล่าวเป็นของ “แพทย์ รพ.รามาธิบดี” ที่ได้รับวัคซีน เข็ม 1 เป็นซิโนแวค เมื่อวันที่ 25 มี.ค. และ เข็ม 2 เป็นซิโนแวค เมื่อวันที่ 18 เม.ย. จากนั้น 17 ก.ค. ที่ผ่านมา รับบูสเตอร์แอสตร้า เป็นเข็ม 3 แต่เนื่องจากมีภาระกิจไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทางรามาธิบดี ได้ทำหนังสือส่งตัวมาขอรับคำปรึกษาและรับวัคซีนเพิ่ม เนื่องจากประเทศที่ไปศึกษาไม่รับรองซิโนแวค อีกทั้งประเทศปลายทางที่เดินทางไปรับรองไฟเซอร์ จึง ต้องฉีดไฟเซอร์ ส่วนรายละเอียดให้สอบถาม รพ.รามาธิบดี
ด้าน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางรามาธิบดี ได้ส่งรายชื่อแพทย์ที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่มีกำหนดเดินทางในเดือนก.ย.นี้ ให้กรมควบคุมโรคพิจารณาเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้ ในสถานะผู้ที่ต้องการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ จำนวน 2 คน ส่วนรายละเอียดไม่ทราบว่ามีการนัดหมายรับวัคซีน แต่ในการเดินทางไปต่างประเทศ บางประเทศไม่รับรองวัคซีนซิโนแวค และหากฉีดแค่แอสตร้า เพียง 1 เข็ม บางประเทศก็ไม่นับว่า รับวัคซีนไปแล้ว
ข่าวจาก : springnews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ