‘สิระ’ จี้ ‘ไฮโซลูกนัท’ โชว์ใบรับรองแพทย์ ลั่น ตาบอดจริงให้ 1 ล้าน ซัด ‘เสรีพิศุทธ์’ เหมือนอนุบาลสอบผิดแล้วขอแก้ เดือด! ต้องรับผิดชอบคืนเครื่องราชฯ–คืนยศให้หมด
เมื่อเวลา 11.05 น. วันที่ 23 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงถึงการลงติผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีบุคคลที่น่าสนใจที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มาตรา 36 งบประมาณส่วนราชการในพระองค์ คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคสร. และพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ทั้ง 3 คนได้รับพระราชทานยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่จะพระราชทานให้ ส่วนการลงมติคว่ำมาตรา 36 เป็นอำนาจหน้าที่ของส.ส. หมายถึงส.ส.พรรค ก.ก. และบุคคลที่กล่าวถึงที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ต่อมามีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ปรากฎในเฟซบุ๊กของนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคสร. และในเพจเฟซบุ๊กของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่าขอแก้มติ ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับการลงมติ ถ้าจะแก้ไขต้องแก้ก่อนมีผลว่ามติออกมาเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่เมื่อผลการลงคะแนนออกมาแล้วก็สามารถทำเรื่องได้ คือ ผู้ที่ลงคะแนนไม่ทันหรือลงคะแนนผิดพลาด ก็สามารถลุกขึ้นแจ้งประธานในที่ประชุมเพื่อขอเปลี่ยนแปลงได้โดยให้บันทึกไว้ ซึ่งเป็นเพียงแค่การบันทึกไว้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมติหรือลงมติเพิ่มได้
“การลงมติใช้มือกดโหวต คนเหล่านี้ปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาคว่ำ แต่ใช้มือกดโหวตยังไม่ถูก ถามว่าแบบนี้ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรเลยหรือ การกดโหวตต้องใช้สติ จึงอยากถามว่าท่านมีความคิดอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และท่านมีหนังสือถึงประธานสภาฯ ขอเปลี่ยนมติซึ่งหนังสือแบบนี้เป็นเพียงสภาโจ๊กเท่านั้น คงต้องยื่นให้กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เป็นประธานสภาโจ๊ก เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมติได้ ท่านต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการที่ท่านลงมติคว่ำ ด้วยการคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้มาและคืนยศที่ได้รับพระราชทานให้หมด ขอให้ท่านทบทวนพิจารณาตัวเอง การโหวตมาตราอื่นๆทำไมกดถูก แต่มาตรา 36 บอกไม่เจตนาใครจะไปเชื่ออยากหัวเราะดังๆ นี่ไม่ใช่สภาโจ๊กที่จะชักเข้าชักออกเหมือนการชักว่าวได้ ลงมติเหมือนเด็กอนุบาล ตอบผิดแล้วไปขอแก้คำตอบ” นายสิระ กล่าว
นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ท้าตีท้าต่อยคนอื่นไปทั่วว่า ผู้ใหญ่สอนตนตอนเด็กๆ ว่าอันไหนคือขี้อย่าไปจิ้ม อย่าไปใกล้ ให้เอาไม้ไปเขี่ย ตนไม่เอามือตนไปจิ้มขี้ เพราะจะเหม็นติดตัว ก็ขอให้ประชาชนที่เลือกมาเป็น ส.ส.ปัดเศษ ว่าส.ส.ที่ท่านเลือกมามีความรู้ ความสามารถหรือไม่ เพื่อตัดสินใจในการเลือกครั้งต่อไป วันนี้ส.ส.ส่วนมากหาข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หาข้อมูลศึกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่นายมงคลกิตติ์เอาสติปัญญาสมองที่มีอยู่ไปท้าคนนั้นคนนี้ต่อย ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่เวลา ก็ขอให้สังคมพิจารณาว่านายมงคลกิตติ์ มีสติปัญหาเท่าไหร่ ตนไม่ขอเอามือไปจิ้มขี้
นายสิระ กล่าวถึงการลงพื้นที่ดินแดง เมื่อวานนี้ (22 สิงหาคม) ว่า มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 2 คณะ คือ คณะกมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะกมธ.การพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร ว่าเราเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และได้สะท้อนปัญหาวิธีการแก้ไขปัญหาของตำรวจ จึงมีการยกตู้คอนเทนเนอร์ออก และเลื่อนไม่ให้อยู่ในที่ชุมชน รวมถึงการคัดกรองประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (22 สิงหาคม) ไม่มีการชุมนุม แต่เป็นแก๊งป่วนเมืองที่ต้องการปะทะกับตำรวจอย่างเดียวและมีตัวแทนนักศึกษาจาก 7 มหาวิทยาลัย แนะนำว่าการชุมนุมเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ ต้องปราศจากอาวุธและไม่ใข้ความรุนแรง และต้องมีการคัดกรองผู้ชุมนุม ไม่ให้พกพาอาวุธ และพวกชอบใช้ความรุนแรงให้คัดออก การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่มีความรุนแรง เป็นการชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ แต่ตรงสามเหลี่ยมดินแดงไม่ใช่การชุมนุม เป็นการจ้างมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งการพกพาอาวุธต้องถูกดำเนินคดีตามหลักสากล
สำหรับกรณีไฮโซลูกนัท หรือ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ที่เข้าร่วมชุมนุมและได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตานั้น นายสิระ กล่าวว่า มีข้อสังสัยว่าตาบอดจริงหรือไม่ ตนมีคลิปว่าสิ่งแปลกปลอมที่ลอยลงมาไม่ได้โดนตา ทำให้ตนไม่เชื่อว่าตาบอด เพราะจนวันนี้ไม่มีแพทย์ออกมาบอกว่าตาบอด และหากตาบอดจริงต้องใช้เวลารักษาตัวคงไม่มาเดินได้แบบนี้ การเป็นลูกไฮโซได้รับการเลี้ยงดูที่ดีทำได้แค่นี้หรือ ตาไม่บอดก็บอกตาบอด ตนก็ขอให้บอดสองข้างไปเลยจริงๆ ให้พริกเข้าตาให้ตาบอดสองข้างไปเลย ตนขอให้เอาใบรับรองแพทย์มาแสดง ถ้าไฮโซลูกนัทตาบอดจริง ตนให้เลย 1 ล้านบาท อย่าเอาแค่เลือดเข้าตาแล้วบอกว่าตาบอดไปหวังผลทางการเมือง ยุยงปลุกปั่น ให้ประชาชนลุกขึ้นมาทำผิดกฎหมาย ถ้าตาไม่บอดขอให้สังคมออกมาร่วมประณามคนคนนี้
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ