เปิดผลสอบปม อมเบี้ยเลี้ยง ตม.สุรินทร์ หลังตำรวจชั้นผู้น้อยร้อง ได้เงินมา ถูกสั่งให้โอนกลับ เผย ตำรวจทุกนายได้รับเงินครบ แต่การโอนเงินต่อเป็นความสมัครใจ
จากกรณีเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ หรือ ตม.สุรินทร์ ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ตำรวจชั้นผู้น้อย 14 นาย ถูกผู้บังคับบัญชา อมเงินเบี้ยเลี้ยง ปฏิบัติงานป้องกันการะบาดของโรคโควิด-19 รวมเป็นเงินกว่า 120,000 บาท กระทั่ง พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ก.ย.2564 พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 ในฐานะ โฆษก บก.ตม.ภ.4 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เป็นภาพตารางการโอนเงินเข้าบัญชีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.สุรินทร์ จริง แต่เป็นการเบิกจ่ายเงินสำหรับการเดินทางไปราชการสืบสวนปราบปรามในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเป็นงบค่าธรรมเนียมเสริมงบประมาณ พ.ศ.2563 ซึ่งมีการเบิกจ่ายในช่วงเดือน ก.ย.2563 ไม่ใช่งบประมาณค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ตามที่เป็นข่าว
พ.ต.อ.เอกกมนต์ กล่าวต่อว่า ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ในรูปแบบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าวทันที โดยได้ทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 27 นาย แยกเป็นระดับรอง สว.14 นาย และ ชั้นประทวน 12 นาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่การเงินอีก 1 นาย ซึ่งขณะนี้การอบสวนดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว
“ข้อสรุปคือการเบิกจ่ายเงินงบประมาณสำหรับการเดินทางไปราชการเพื่อการสืบสวนปราบปรามของ ตม.จ.สุรินทร์ ของชุดปฏิบัติการ ตม.จ.สุรินทร์ นั้น พบว่าทุกนายได้รับเงินตามสิทธิ์ โดยมีการจ่ายตรงเข้าบัญชีเจ้าหน้าที่แต่ละนาย ตามระเบียบของทางราชการครบถ้วน ตามที่มีการขอเบิกจ่ายจริง โดยที่ไม่มีการหักหรือตัดทอนเงินดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนการที่เจ้าหน้าที่บางนายโอนต่อไปให้ผู้อื่นนั้นเป็นความสมัครใจของเจ้าหน้าที่เอง โดยรับว่าเป็นการชดใช้เงินค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าพาหนะเดินทางต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่บางส่วนได้สำรองจ่ายกันไปก่อน ในระหว่างการออกไปปฏิบัติหน้าที่ เมื่อได้รับเงินค่าเดินทางไปราชการแล้ว จึงชดใช้โดยการโอนเงินคืนไปให้กับผู้สำรองจ่าย” พ.ต.อ.เอกกมนต์ กล่าว
รอง ผบก.ตม.4 กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งคณะทำงานของ บก.ตม. 4 ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงภาพรวมในทุกมิติตามที่ปรากฏในสื่อมวลชนแล้ว ซึ่งยืนยันว่าไม่พบการกระทำความผิดตามที่ระบุมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการกระทำความผิด ในเขตความรับผิดชอบของ บก.ตม. 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่ กองบังคับการฯ ตั้งอยู่ที่ จ.ขอนแก่น คณะทำงานจะดำเนินการทางอาญา ทางปกครอง รวมทั้งทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกนายอย่างเด็ดขาดทันทีโดยไม่ละเว้น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ