เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตอบกลับภาคีบุคลากรสาธารณสุข ปมคัดค้านฉีดซิโนฟาร์มให้เด็ก ทั้งที่ อย. ยังไม่รองรับ ยันดำเนินการตามกฎหมาย จะชี้แจงกับแค่คนที่ความรู้เท่ากัน ก่อนแซะ อย. สงสัยไม่มีลูกหลานเล็ก ๆ
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ภาคีบุคลากรสาธารณสุข โพสต์ข้อความแสดงการคัดค้านการฉีดวัคซีนโควิด 19 ซิโนฟาร์มในเด็ก อายุ 3 ขวบขึ้นไป ของทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่มีการยื่นขอการรองรับจาก อย. แต่ถูกปัดตกไปแล้ว ทว่า กลับยังคงมีการดำเนินการฉีดให้กับเด็กอายุ 10-18 ปี ไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564
โดย ภาคีบุคลากรสาธารณสุข ระบุว่า เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ ขอแสดงจุดยืนคัดค้านการทำงานวิจัยการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ในเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป คำถามที่ต้องถามกลับไปยังราชวิทยาลัย คือ งานวิจัยนี้ผ่านการขอจริยธรรมงานวิจัย (IRB) แล้วหรือไม่ และหากผ่านคณะกรรมการจริยธรรมแล้ว ใช้เกณฑ์อะไรในการรับรองความปลอดภัยของซิโนฟาร์ม ในเด็กที่มีอายุระหว่าง 10-18 ปี ทั้ง ๆ ที่เพิ่งมีผลการวิจัยเฟส 2 ไปในกลุ่มเด็กที่มีอายุ 3-17 ปี จำนวน 720 คนเท่านั้น !!!
หรือแท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงละครฉากใหญ่เพื่อระบายวัคซีนคงค้างเพื่อเคลียร์ที่ว่างให้กับวัคซีนโมเดอร์นา ที่เพิ่งเซ็นสัญญานำเข้า
ล่าสุด (22 กันยายน 2564) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ศ. นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนเองไม่มีความเห็นใด ๆ แต่กล่าวสั้น ๆ เพียงว่า หากมีความเข้าใจสถานการณ์ ก็จะเชื่อมั่นในแผนที่ทางราชวิทยาลัยดำเนินการ เพราะทุกอย่างมีการพิจารณาถึงความปลอดภัยแล้วก่อนจะนำมาใช้งาน
เลขาฯ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยันดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ชี้ซิโนฟาร์มผลข้างเคียงน้อยกว่ายี่ห้ออื่นอีก
โดย นพ.นิธิ กล่าวถึงกรณีถูกตั้งคำถามว่า การฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มเด็กทั้งที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจาก อย. ว่า ทางราชวิทยาลัย ดำเนินทุกขั้นตอนตามระเบียบกฎหมายแล้ว ส่วนการพิจารณาก็ต้องรอทาง อย. พิจารณา และแผนดำเนินงานของราชวิทยาลัยยังคงดำเนินต่อตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า วัคซีนซิโนฟาร์มมีผลกระทบน้อยกว่าวัคซีนอื่นตั้งเยอะ จะไปกลัวอะไร วัคซีนอื่นน่ากลัวกว่าอีกไหม ส่วนที่มีมติออกมาไม่ให้ฉีดในเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนั้น สงสัย อย. ไม่มีลูกมีหลานเล็ก ๆ อันนี้เดาเอา ซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นหน่วยงานที่นำร่องและคิดค้นตัวอย่างทำให้คนอื่นได้เห็น ส่วนใครจะเห็นเป็นอย่างอื่นแล้วจะไปทำอย่างไรต่อก็เชิญ ที่ผ่านมาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก็นำร่องไปหลายโครงการแล้ว บางโครงการตกร่องไปแล้วก็มี ซึ่งก็ไม่เป็นไร
นพ.นิธิ ทิ้งท้ายว่า กรณีถูกตั้งคำถามว่าการฉีดวัคซีนให้กับเด็กทั้งที่ยังไม่มีผลการวิจัยรับรอง ว่า เวลาที่จะชี้แจงในข้อสงสัยเรื่องไหน ตนเองก็จะชี้แจงให้กับคนในระดับความรู้และกิเลสเสมอกัน คนอื่นไม่ชี้แจงแล้ว วัคซีนที่ฉีดให้กับเด็กนักเรียน ใครอยากจะมาฉีดก็มา ใครอยากจะใช้ก็ใช้ไม่ได้บังคับใคร เพราะเป็นโครงการนำร่องทดลอง เพราะถ้าไม่ทดลองก็ไม่รู้
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ