ศาลทหารนัดฟังคำสั่งฟ้อง คดีซ้อมพลทหารวิเชียรจนตาย 30 ก.ย.นี้ ญาตพลทหารวิเชียรดีใจ ยุติการรอคอยนาน 10 ปี
เมื่อวันที่ 22 กันยายน น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ที่เสียชีวิตจากการฝึกซ้อมทหารใหม่ในค่ายทหาร เมื่อปี 2554 โพสต์ข้อความทาง facebook เปิดเผยความคืบหน้า ว่าล่าสุดมีหนังสือจากอัยการมณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ลงวันที่ 22 กันยายน แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี โดยจะยื่นฟ้องร้อยโทกับพวกรวม 9 คนในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา ต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 46 โดยสารได้กำหนดนัดฟังคำประทับรับฟ้อง วันที่ 30 กันยายน 2564 เวลา 13.30 น.
น.ส.นริศราวัลถ์ระบุต่อว่า จากวันที่พลทหารวิเชียร ถูกเจ้าหน้าที่ทหารรุมซ้อมทรมานทำร้ายร่างกายในหน่วยฝึกทหารใหม่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2554 นั้น จนวันนี้เวลาล่วงเลยผ่านมา 10 ปีกว่าแล้ว ผ่านด่านพนักงานสอบสวน + กรรมการสอบสวนของ พล.ร.15 และทัพภาคที่ 4 >> อัยการ มทบ.42 >> คณะกรรมการ ป.ป.ช. >> คณะกรรมการ ปปท. >> เจ้ากรมพระธรรมนูญ >> อัยการทหาร มทบ.46 มันก็มาถึงด่านสุดท้ายแล้วนะ >> ศาลทหาร มทบ. 46 ยังเชื่อมั่นต่อศาลทหารเสมอว่ามีความยุติธรรม วันที่ 30 เมษายน 2564 เวลา 09.00 น. ศาล มทบ. 46 มีนัดฟังคำสั่ง/ประทับรับฟ้องคดี …โดยมีผู้ต้องหาครบ 10 นาย (รวมร้อยโท) ความถูกต้องและยุติธรรมจะต้องชนะอำนาจยศฐาบรรดาศักดิ์และเงินตรา
ขอชี้แจงเพิ่มเติมถึงระยะเวลาที่ผ่านไปเกือบ 10 ปี พนง.สอบสวนทำสำนวนคดีฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ผู้ต้องหา 9 นาย (ร้อยตรีลงมา ไม่มีร้อยโท) ส่งให้อัยการทหาร มทบ.42 ซึ่งอัยการทหารได้ให้ พนง.สอบสวน สอบเพิ่มแล้วแต่ยังได้ 9 นายเท่าเดิม …ใช้เวลา 2-3 เดือน
อัยการทหาร มทบ.42 ส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อต้นเดือน ธ.ค.54 แยกเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนเเรกตามที่ พนง.สอบสวนทำมา ผู้ต้องหา 9 นาย (ร้อยตรีลงมา) / สำนวนที่ 2 ความผิด ม.157 กับ 10 นาย (รวมร้อยโท) … ใช้เวลา 2-3 เดือน
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งต่อสำนวนไปให้ คณะกรรมการ ปปท. (เนื่องจากยศผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในอำนาจการพิจารณาของ ปปท.) เมื่อ พ.ค.-มิ.ย.55 …ใช้เวลา 5-6 เดือน
คณะกรรมการ ปปท.สอบพยาน รวบรวมหลักฐาน จนสามารถรวมสำนวน 2 สำนวนเข้าด้วยกันเหลือสำนวนเดียว มีมติชี้มูลความผิดทั้ง 10 นาย (ร้อยโทกับพวกรวม 10 นาย) ในความผิด ม.290 ม.157 ม.83 และประมวลกฎหมายอาญาทหาร ม.30 (4) ส่งสำนวนต่อให้อัยการทหาร มทบ.46 สั่งฟ้อง …ใช้เวลา 4 ปี
อัยการทหาร มทบ.46 (คนเก่า) มีความเห็นแย้งกับ มติ ปปท. และมีการแก้ไขความผิดประมวลกฎหมายอาญาทหาร ม.30 (4) เป็น ม.30 (2) …ใช้เวลาร่วมเกือบ 2 ปี
คณะกรรมการ ปปท.ส่งมติยืนยันฟ้องให้เจ้ากรมพระธรรมนูญชี้ขาด เมื่อ 4 ต.ค.61 และสุดท้ายเจ้ากรมฯ มีความเห็นชี้ขาดตามมติ ปปท. … ใช้เวลา 1 ปีกว่า
สำนวนกลับมาอยู่ในมืออัยการทหาร มทบ.46 (คนใหม่) ต้นปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์โควิดระบาดพอดี แต่อัยการทหารก็ได้ทำสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาไปเมื่อสิ้นปี 2563 และศาลมีดุลพินิจให้ประกันด้วยหลักทรัพย์ (เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี) ส่วนตัวเห็นด้วยกับศาลที่ให้ประกันตัว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ