วิจารณ์ยับ หนุ่มสั่งอาหาร ปล่อยให้ไรเดอร์คนแก่ โทรหาเก้อ 30 ครั้ง จะรับออร์เดอร์ใหม่ก็ไม่ได้จนกว่าจะเคลียร์ของเก่า เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงินฟรี ๆ เจ้าตัวแจง ไม่ได้ตั้งใจสั่ง แต่ขาพลาดไปโดนตอนปั่นจักรยาน เรื่องนี้ชาวเน็ตไม่เชื่อ
ปัญหาการสั่งอาหารผ่านไรเดอร์ แต่คนสั่งเบี้ยว ทำให้ไรเดอร์ต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงินฟรี ๆ แม้จะรณรงค์ให้คนเลิกทำแค่ไหน ก็ยังไม่มีทางแก้ได้ และดูเหมือนว่า เรื่องทำนองนี้ที่เกิดจะพีคขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุด วันที่ 23 ตุลาคม 2564 เฟซบุ๊ก ข้าวต้มโบราณแม่สุรีย์ มีการโพสต์แฉลูกค้ารายหนึ่งที่สั่งอาหารผ่านไรเดอร์ รวมทั้งสิ้น 150 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่มีการรับของว่า หลังจากส่งของให้ไรเดอร์เอาไปส่ง ทางไรเดอร์โทรศัพท์ติดต่อลูกค้าไม่ได้เลย ตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 1 ทุ่มครึ่ง โทรศัพท์ไปหารวมกันถึง 20-30 ครั้งก็ไม่สำเร็จ นอกจากนี้ การที่ลูกค้าไม่ยอมรับออร์เดอร์ ก็ทำให้ไรเดอร์รับออร์เดอร์ใหม่ ๆ ไม่ได้ นอกจากจะขาดทุนแล้ว ไรเดอร์ยังโดนตัดโอกาสการรับออร์เดอร์อื่นอีก ถ้าไม่พร้อมที่จะสั่งก็อย่าสั่ง ที่สำคัญคือ ไรเดอร์คนนี้ก็เป็นคนแก่ แต่ก็ทำกันได้ลงคอ คุณใจร้ายมาก
พอเรื่องราวถูกโพสต์ออกไป หลายคนที่ได้อ่านก็เสนอตัวเข้ามาช่วยบริจาคให้ทิปไรเดอร์คนนี้ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป และคอยจุนเจือในส่วนที่ขาดทุนไปในวันนี้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็วิจารณ์นิสัยของลูกค้าว่าเป็นเศษเดน เลว ไร้ความรับผิดชอบ
ลูกค้าชี้แจง ไม่ได้ตั้งใจสั่ง แต่ขาพลาดโดน
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าคนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ใต้โพสต์ของทางร้านว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะสั่งเล่นหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นคือ ตนเอามือถือใส่กระเป๋ากางเกงขณะที่กำลังปั่นจักรยาน จึงอาจมีพลาดไปโดนปุ่มสั่งอาหารขึ้น แล้วก็ไม่รู้ว่า ขาไปโดนปุ่มตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไหร่
กระทั่งตอน 5 โมงตนเห็นข้อความจากไรเดอร์ แต่คิดว่าเป็นข้อความการสั่งก่อนหน้า (ตอนเที่ยง) จึงปัดทิ้งไป แล้วก็ไปปั่นจักรยานต่อ เมื่อปั่นจักรยานเสร็จช่วง 2 ทุ่ม ก็ไปรับประทานอาหาร ช่วงนั้นแบตโทรศัพท์ตนหมดแล้ว เลยไม่ได้ดูข้อความหรือสายที่เรียกเข้า มาทราบรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้งตอนเที่ยงคืน
ทั้งนี้ ตนได้ชี้แจงกับทางร้านและขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ไรเดอร์คนนี้
ชาวเน็ตไม่เชื่อเพราะการสั่งมันมีหลายขั้นตอนเกินไป
ทว่าชาวเน็ตหลายคนกลับไม่เชื่อคำชี้แจง มองว่า การที่จะกดสั่งอาหารได้นั้น มันต้องผ่านหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งขาก็ไม่น่าจะโดนถึงขนาดนั้นได้ รวมถึงการสั่งเมนูอาหาร มีการเจาะจงเลือกเครื่องเคียง เพิ่มเครื่องเคียงแบบครบเซตอีกด้วย มันจึงไม่น่าบังเอิญโดนมือถือขนาดนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิด แค่เปอร์เซ็นต์เกิดมันน่าจะน้อยเท่านั้น
ส่วนอีกคนก็ทักท้วงว่า ตอนที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้เหรอ ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งมีคนมาบอกตอนเที่ยงคืน แต่ในประเด็นนี้ ทางลูกค้าก็ไม่ได้มาตอบโพสต์ชี้แจงเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ