ทำไมไทยน้ำมันแพงทั้งที่ราคาน้ำมันดิบเท่ากัน-คนขับรถบรรทุกเดือดร้อนอะไร





ตอบข้อสงสัย ทำไมคนขับรถบรรทุกเดือดร้อนจากราคาน้ำมันจนก่อม็อบประท้วง ทั้งที่ไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันเอง รายได้เท่าเดิม เรื่องนี้มีคำตอบ พร้อมไขปม ทำไมคนไทยใช้น้ำมันแพงกว่าบางประเทศ ทั้งที่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบนั้นเท่ากัน

 

 

สถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงนี้ค่อนข้างแพงมาก ท่ามกลางเสียงบ่นระงมจากประชาชนที่อยากให้รัฐบาลช่วยตรึงราคาน้ำมันเอาไว้ จนถึงขั้นมีม็อบรถบรรทุกออกมาร้องเรียนให้รัฐบาลช่วยตรึงราคาน้ำมันเหลือ 25 บาทต่อลิตร พร้อมกับขับประท้วงไปจอดตามถนนเส้นต่าง ๆ รอบกรุง ทำให้คนสงสัยว่า ทำไมคนขับรถบรรทุกถึงเดือดร้อน ทั้งที่ได้รับเงินค่าจ้างตายตัว ต่อให้น้ำมันแพงยังไงก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว

ล่าสุด วันที่ 23 ตุลาคม 2564 ข่าววันศุกร์ จัดรายการโดยจั๊ด ธีมะ ได้มีการเฉลยปมเรื่องนี้ ระบุว่า แม้คนขับรถบรรทุกจะได้รายได้เท่าเดิม แต่ราคาน้ำมันแพงก็สร้างผลกระทบกับพวกเขาโดยอ้อมจริง ๆ ซึ่งก่อนอื่นจะต้องชำแหละโครงสร้างรายได้ของการส่งของจากรถบรรทุกก่อน เพื่อที่จะเห็นภาพมากขึ้น

 

รายได้ของคนขับรถบรรทุก มาจากไหน

ต้องเข้าใจก่อนว่า คนขับรถบรรทุกไม่ได้มีรถเป็นของตัวเอง แต่เป็นการรับจ้างขับให้ผู้ประกอบการรถบรรทุก ฉะนั้นรายได้ของคนขับรถ จะได้รับจากเปอร์เซ็นต์ของค่าขนส่ง 16% เป็นตัวเลขที่ตายตัว เช่น ค่าขนส่ง 5,000 บาทในระยะทางไปกลับ 300 กิโลเมตร คนขับรถจะได้ค่าจ้าง 800 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 4,200 บาท จะอยู่กับผู้ประกอบการรถบรรทุกซึ่งจะใช้เงินส่วนที่เหลือตรงนี้รับผิดชอบตรงค่าน้ำมันและค่าสึกหรอ หักจนเหลือยอดสุดท้ายก็คือ กำไรที่ได้รับ

 

 

แล้วน้ำมันแพงมันกระทบกับคนขับรถบรรทุกยังไง ?

ทั้งนี้ ถ้าหากราคาน้ำมันยิ่งแพงเท่าไหร่ ผู้ประกอบการรถบรรทุกก็จะต้องแบกรับค่าน้ำมันตรงจุดนี้มากขึ้นเท่านั้น โดยที่เงินจากค่าขนส่งอยู่ที่ 5,000 บาทเท่าเดิม ค่าจ้างคนขับรถอยู่ที่ 800 บาทเท่าเดิม แต่จ่ายค่าน้ำมันราคาสูงขึ้น กำไรลดลง วิ่งไม่คุ้ม

เมื่อบริษัทคนส่งเจอปัญหาแบบนี้ วิธีแก้ปัญหาของพวกเขาคือ การลดจำนวนรอบที่จะส่งของลง จากที่ส่งของทุกวัน อาจจะเปลี่ยนเป็น 20 วันต่อเดือน ทำให้ปริมาณการจ้างคนขับรถบรรทุกก็ลดลงตามไปด้วย และคนขับรถบรรทุกก็จะมีงานน้อยลง นี่จึงเป็นผลกระทบทางอ้อม จากที่ขับทุกวัน ได้เงินเดือนละ 24,000 บาท อาจจะเหลือเพียง 16,000 บาท หายไปถึง 8,000 บาทต่อเดือน

ทำไมราคาขายน้ำมันในไทยถึงแพงกว่าบางประเทศ ทั้งที่ต้นทุนน่าจะเท่ากัน

นางสาวรสนา โตสิตระกูล คณะอนุกรรมการด้านการสาธารณพลังงานและสิ่งแวดล้อมของสภาองค์กรผู้บริโภค เปิดเผยถึงต้นทุนราคาน้ำมันว่า น้ำมันที่มาจากสิงคโปร์ ต้นทุนก็อยู่ที่ 20 บาทแล้ว ซึ่งในราคา 20 บาทนี้ก็จะมีการบวกทั้งค่าประกันภัย ค่าน้ำมันหก และอื่น ๆ ถือเป็นต้นทุนเทียม ไม่ใช่ต้นทุนที่มาจากราคาน้ำมันแบบตรง ๆ

ด้านจั๊ด ธีมะ อธิบายเพิ่มเติมว่า ราคาน้ำมันที่จะมาถึงตัวเรานั้น นอกจากต้นทุนค่าน้ำมันแล้ว ยังมีการบวกภาษีอีก เช่น ภาษีสรรพสามิต, ภาษีเทศบาล, กองทุนอนุรักษ์พลังงาน, กองทุนพลังงานทดแทน บวกกัน 4-5 ต่อ

เมื่อน้ำมันมาถึงปั๊ม ก็มีการบวกค่าบริการ ค่าใช้จ่ายของปั๊มน้ำมันและแวต 7% เท่ากับว่าโดนบวกไป 7-8 ขั้น กว่าจะมาถึงราคาที่คนไทยต้องซื้อจริง ๆ

ทางแก้ปัญหาของเรื่องนี้ หากอยากให้ราคาน้ำมันลง ต้องลดการเก็บค่าบริการในบางส่วนลงไปก่อน เพื่อให้ต้นทุนมันลดลง พยุงราคาขายเอาไว้จนกว่าสถานการณ์จะกลับไปเป็นปกติ ค่อยไปเก็บเต็มตามเดิมน่าจะดีกว่า

ข้อมูลจาก ข่าววันศุกร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: