2 พส. “พระมหาสมปอง-พระมหาไพรวัลย์” เปรยอาจตัดสินใจสึก หากเกิดความไม่เป็นธรรม ในวัดสร้อยทอง ยืนยันไม่เดินสายการเมือง
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากพระมหาสมปอง และพระมหาไพรวัลย์ ไลฟ์สดพูดคุยกันว่า หากรักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรูปปัจจุบัน ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส อาจย้ายวัดหนี หรือลาสิกขา
โดยในช่วงหนึ่งของการไลฟ์โดย พระมหาสมปอง ได้ต่อสายถึง พระมหาไพรวัลย์ แล้วถามว่า ถ้า พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรูปปัจจุบัน ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส พระมหาไพรวัลย์ จะไม่อยู่วัดสร้อยทองจริงหรือไม่ ซึ่งได้ข่าวมาถึงขนาดว่าจะลาสิกขา
ซึ่งทาง พระมหาไพรวัลย์ ตอบกลับว่า ไม่อยู่ครับ และว่า หากไม่อยู่เป็นพระ ก็อยู่เป็นฆราวาส ซึ่งก็อาจจะ แม้บวชมาตลอดก็ไม่จำเป็นต้องเป็นครู อาจารย์ ผมไม่อดตายอยู่แล้ว สูงสุดคืนสู่สามัญ นี่คือหลักการใช้ชีวิตของผมอยู่แล้ว ไม่คืนวันนี้ วันตายก็ต้องคืนอยู่ดี นี่คือ ธรรมะ
ขณะที่ พระมหาสมปอง ก็บอกด้วยว่าหากรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส แล้วแต่งตั้งพระรูปอื่นมาเป็นเจ้าอาวาสแทน ก็จะขออนุญาตเจ้าอาวาสขออนุญาตอยู่ต่ออีกสัก 2 ปี เนื่องจากยังมีภารกิจอีกมาก และวันที่ 3 พ.ย.2566 ก็จะตาม พระมหาไพรวัลย์ ออกไป แต่แม้จะเป็นวาจาพูดมัด แต่ไม่ต้องรักษาคำพูดก็ได้ เพราะไม่ได้เป็นวาจาสิทธิ์อะไรขนาดนั้น
ทั้งนี้ ในไลฟ์พระมหาสมปอง พูดคาบเกี่ยวไปถึงเรื่องการเมือง ทำให้หลายคนมองว่า อาจจะสึกไปเล่นการเมืองหรือไม่ ซึ่งทาง พระมหาไพรวัลย์ ยืนยันว่า ไม่มีทาง จะไม่เดินสายการเมือง ไม่เป็นนักการเมือง และจะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า การที่พูดถึงเรื่องประเด็นทางสังคมนั้น ไม่ได้หมายความว่า อยากเป็นนักการเมือง เหมือนคนชอบแซวว่า ไปช่วยน้ำท่วมแล้ว สมัยหน้าจะลง ส.ส. ไหม ทำไมการช่วยคนต้องเป็นหน้าที่ของนักการเมืองเท่านั้นหรือ ทำไมคนธรรมดาช่วยกันไม่ได้ในฐานะเพื่อนร่วมสังคม ถ้าออกไป คือ ต้องไม่เอาอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ฟังไลฟ์ในวันนั้นต่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่วัดสร้อยทอง ซึ่งจากการสอบถามไปยังพระเลขานุการ ของ พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว แต่ทาง พระราชปัญญาสุธี ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์
นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยัง พระมหาไพรวัลย์ ซึ่งลงพื้นที่ไปหาหมอปลา ที่สมุทรสาคร เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งทางพระมหาไพรวัลย์ ปฏิเสธที่จะพูด บอกแต่เพียงว่า คนเป็นพระไม่ได้มีใครอยากสึกหรอก อาตมาก็รักผ้าเหลือง แต่ถ้ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นธรรม และรู้สึกว่าทนไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกิดหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าความไม่เป็นธรรมนั้นเกิด อาตมาก็จะไม่ทน เพราะอาตมาก็ไม่มีทางอื่นให้ประท้วง เพราะอาตมาไม่มีตำแหน่งอื่น นอกจากพระลูกวัด ก็ช่วยกันภาวนา ไม่ให้ความไม่เป็นธรรมนั้นเกิดขึ้น แต่ถ้ามันเกิด ก็ตัดสินใจว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อประท้วงความไม่เป็นธรรมนั้น
ส่วนหมอปลาเอง ก็บอกว่า จะขัดขวาง ไม่ยอมให้ลาสิกขา เพราะกล้าพูดได้ว่า พระสงฆ์ที่กล้าพูดความจริง มีน้อย
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ