พศ. งง พระมหาไพรวัลย์ – พระมหาสมปอง พร้อมสึก รักษาความเป็นธรรมให้ พระราชปัญญาสุธี หากไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาว่า พบเสนอชื่อไปแล้ว ด้าน พระมหาไพรวัลย์ สวนคนวิจารณ์ร้องไห้กลางไลฟ์
กลายเป็นประเด็นฮือฮามากในสังคม หลังจากที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แห่งวัดสร้อยทอง ได้ประกาศกลางไลฟ์ ว่าจะขอสละสมณเพศ หากว่า พระราชปัญญาสุธี รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งไม่เป็นไปโดยธรรม ซึ่งหากลาสิขาไปแล้วก็จะกลับไปดูแลโยมแม่
โดยพระมหาไพรวัลย์ยังหลั่งน้ำตาร้องไห้อย่างสุดกลั้น ขณะย้อนนึกถึงความทรงจำร่วมกับโยมแม่ และยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปอยู่วัดอื่น เพราะไม่ใช่วิธีรักษาความเป็นธรรมให้พระราชปัญญาสุธี
คืบหน้า วันที่ 30 ตุลาคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายสิปป์บวร แก้วงาม รอง ผอ.รักษาราชการ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้กล่าวถึงกรณีการไลฟ์ของ พระมหาไพรวัลย์ รวมถึงที่ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต แห่งวัดสร้อยทอง ได้กล่าวว่าจะขออยู่ต่ออีก 2 ปีก่อนจะลาสิขาตามพระมหาไพรวัลย์ หาก พระราชปัญญาสุธี ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส
โดยระบุว่า ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองไปนำประเด็นเรื่องเจ้าอาวาสมาจากไหน หรืออาจจะเห็นจากนโยบายของพระธรรมวชิรมุนี (บุญชิต ณาณสังวโร) เจ้าคณะกรุงเทพฯ ที่มีนโยบายในการจะดูความประพฤติของพระสงฆ์ที่มีการออกทางสื่อออนไลน์ด้วย จึงอาจจะทำให้โยงไปถึงเรื่องเจ้าอาวาส
อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดที่เป็นพระอารามหลวงนั้น ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ.2563) ระบุว่า การแต่งตั้งเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ให้เป็นไปตามพระราชดำริ ซึ่ง มส.ได้มีมติเสนอรายชื่อผู้จะเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองไปแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการประชุม มส. เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีมติรับรองการประชุม การเสนอแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จำนวน 5 รูป ซึ่งในจำนวนนั้นมีการเสนอรายชื่อ พระราชปัญญาสุธี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรวมอยู่ด้วย
ขณะเดียวกันพระมหาไพรวัลย์ ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โต้ตอบกรณีคนวิจารณ์เรื่องร้องไห้กลางไลฟ์ โดยยืนยันว่าอาตมาไม่ได้ร่ำไห้เพราะผิดหวังเสียใจเรื่องยศตำแหน่ง ใครก็ตามที่พูดเช่นนั้นแสดงว่า แม้แต่ความอดทนที่จะนั่งฟังไลฟ์สดที่เป็นประเด็นของอาตมาจนจบ ก็ยังทำไม่ได้เลย
อีกประเด็นคือ ใครก็ตามที่มองเรื่องยศตำแหน่งในวงการคณะสงฆ์เป็นแค่เรื่องยศตำแหน่ง คน ๆ นั้นสะท้อนความตื้นเขินของตัวเองที่มีต่อความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก เพราะยศตำแหน่งในทางคณะสงฆ์มิใช่เพียงแค่ยศตำแหน่ง มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มันผูกพันกับอำนาจในการปกครอง อำนาจในการให้คุณและให้โทษกับผู้ที่อยู่ใต้อาณัติของยศตำแหน่งนั้น ๆ อย่างแยกไม่ออก
ที่สำคัญที่สุด แม้เพียงตำแหน่งในฐานะของเจ้าอาวาส หากมิได้พระภิกษุผู้ที่เป็นรัตตัญญู หรือมีพรหมวิหารธรรมอย่างมากพอในการจัดการดูแล ไม่ได้ผู้ซึ่งมีที่มาที่ชอบธรรมหรือเป็นที่ยอมรับนับถือของสังฆะทั้งหมดในอาราม พระภิกษุผู้นั้น ย่อมจะตกอยู่ภายใต้ภยาคติ หรือไม่ก็ลุแก่อำนาจอย่างง่าย ๆ ย่อมจะใช้อำนาจนั้น รังแกพระลูกวัดไม่ในทางใดก็ทางหนึ่งก็ได้
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ