เปิดเงื่อนไขจ่ายเงินชดเชย หากเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนโมเดอร์นา กับโรงพยาบาลเอกชน เริ่มฉีด 9 พ.ย.
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังวัคซีนโมเดอร์นา ลอตแรก จำนวน 560,000 โดส ถึงไทยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และได้กระจายไปยังโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง ตามสัดส่วนที่ได้สั่งจอง และจะเริ่มฉีดในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564
“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปเงื่อนไขการจ่ายเงินเยียวยา กรณีผู้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาแล้วพบผลข้างเคียง
จ่ายเยียวยาเท่าไร หากเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดโมเดอร์นา
เภสัชกรหญิงศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (2 พ.ย.) ระบุว่า องค์การเภสัชกรรม ได้ทำประกันไว้ เบื้องต้น คือ
1. หากผู้ที่ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา มีอาการโคม่า หรือเสียชีวิต จะได้รับชดเชย 1,000,000 บาท
2. หากผู้ที่ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา เกิดทุพพลภาพถาวร ชดเชย 500,000 บาท
3. หากผู้ที่ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา มีอาการจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นคนไข้ใน (แอดมิท) ของโรงพยาบาล ชดเชยค่ารักษาพยาบาล 100,000 บาท
ทั้งนี้เงินชดเชยดังกล่าวจะครอบคลุมตั้งแต่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 รวมทั้งบูสเตอร์โดส โดยจะเป็นการคุ้มครองภายในระยะเวลา 90 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับการฉีดวัคซีน
ผลข้างเคียงหลังวัคซีนโมเดอร์นา
ขณะที่ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ได้เปิดเผยรายงานผลข้างเคียงที่พบหลังฉีดบูสเตอร์โดสหรือฉีดวัคซีนเข็ม 3 ด้วยวัคซีนชนิด mRNA (โมเดอร์นา) ที่รวบรวมจากฟีดแบ็กของผู้รับวัคซีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงผิวขาววัย 50 ปีขึ้นไป ดังนี้
- ความเจ็บปวดบริเวณจุดฉีด
- รู้สึกอ่อนเพลีย
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ
- มีไข้
- อาการหนาวสั่น
- คลื่นไส้
รู้จักวัคซีนโมเดอร์นา
วัคซีนโมเดอร์นา ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท โมเดอร์นา อิงค์ (Moderna Inc) ซึ่งถือเป็นวัคซีนแบรนด์ที่ 4 ที่จะใช้ในประเทศไทย ต่อจากวัคซีน ซิโนแวก, แอสตร้าเซนเนก้า และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
ผู้ที่ต้องการเข้ารับการฉีด จะต้องฉีดให้ครบ 2 โดส หรือ 2 เข็ม เช่นเดียวกับวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า โดยทางบริษัท ระบุว่า หากฉีดวัคซีนครบ 2 โดส จะสามารถป้องกันโควิดได้ถึง 1 ปี
ประสิทธิภาพวัคซีนโมเดอร์นา
สำหรับประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นา ดร.ภก.นรภัทร ปีสิริกานต์ รกน.ผอก.ผลิตวัคซีนจากไวรัส องค์การเภสัชกรรม ได้สรุปข้อดี-ข้อเสียของวัคซีนโมเดอร์นา (3 พ.ค.64) ไว้ว่า โมเดอร์นา มีประสิทธิภาพจากผลการทดลองในระยะที่ 3 ใกล้เคียงกับซิโนแวค และไฟเซอร์ (ไม่ได้ศึกษาในเวลาเดียวกัน) และเมื่อฉีดเข็มที่ 2 ครบ 14 วัน จะมีประสิทธิภาพดังต่อไปนี้
- สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 94.1%
- สามารถป้องกันการติดโรคได้ถึง 86.4% ในผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ 100%
- สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดได้ 100%
- จากข้อมูลทางห้องปฏิบัติการพบว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ในระดับที่สูงพอที่จะยับยั้งสายพันธุ์ B.1.17 จากอังกฤษ และ B.1.351 จากแอฟริกาใต้ได้
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ