‘หมอโอภาส’ เผย 8 ล้านคน ยังไม่ฉีดวัคซีน ชี้เป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ คิดว่าไม่มีความเสี่ยง จึงไม่ไปฉีด ย้ำฉีดวัคซีนโควิดคือสิ่งที่จำเป็น ลดป่วยหนัก-เสียชีวิต
จากกรณีสังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องยอดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไทย ที่ลดน้อยลง หรือมีอัตราการฉีดชะลอตัวในระยะหลังๆ ซึ่งคาดว่าจะมีประชากรประมาณ 11 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 นั้น
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งเกิดจากก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนไปได้จำนวนมากแล้ว แต่ก็จะมีบางกลุ่ม คาดว่าประมาณ 11 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะนี้ทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปจำนวนมาก
“ที่ตกค้างยังไม่ได้รับวัคซีนจริงจึงไม่ถึง 11 ล้านคน แต่อยู่ที่ประมาณ 7-8 ล้านคน เป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ (Hardcore) ทางการแพทย์ หรือกลุ่มที่ปฏิเสธวัคซีน ด้วยสาเหตุต่างๆ กันไป เช่น กลุ่มที่อยู่พื้นที่ไม่ระบาด กลุ่มอยู่พื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
โดยกลุ่มนี้คิดว่าไม่ได้ไปมีความเสี่ยงที่ไหน จึงไม่ไปฉีดวัคซีน หรือกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่ก็เป็นหน้าที่ของเราในการระดมบุคลากรภาคส่วนต่างๆ ไปชี้แนะข้อเท็จจริง ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ” นพ.โอภาส กล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า ขอย้ำว่าการฉีดวัคซีนมีประโยชน์ ช่วยป้องกันการป่วยหนักและการสูญเสียได้จริง ส่วนที่บอกว่ามียอดตกหล่นไม่ได้รับวัคซีน 11 ล้านคนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขรับทราบตัวเลขมาตลอด และพยายามเร่งฉีดให้ครอบคลุม
“ปัจจุบันตัวเลขผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเหลือน้อยกว่า 11 ล้าน อาจจะเหลืออยู่ประมาณ 5-8 ล้านคน และตัวเลขนี้จะน้อยลงทุกนาที เพราะเรารุกฉีดถึงพื้นที่ ขอย้ำว่าทางกระทรวงสาธารณสุขมีภารกิจสำคัญ คือการเร่งฉีดวัคซีน ซึ่งเราดำเนินการเชิงรุกอย่างสุดความสามารถ ทั้งให้ความรู้ พร้อมกับรณรงค์ให้มารับวัคซีน ควบคู่ไปกับลงพื้นที่ไปให้บริการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับประชาชน ขอย้ำว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 คือสิ่งที่จำเป็น หากท่านอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับบริการ ขอให้ท่านอย่าปฏิเสธการรับวัคซีน เพราะวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต วัคซีนที่รัฐนำมาให้บริการผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ขอให้ประชาชนสบายใจ
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ