ที่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 3 บ้านโคกสูง ตำบลสระตะเคียน อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เป็นบ้านของสามารถ ของโพธิ์ อายุ 70 ปี บ้านช่างตีมีด รุ่นสุดท้ายของครอบครัวและน่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายของตำบลสระตะเคียน ที่ยังคงตีมีดอยู่ในปัจจุบัน
สามารถบอกว่า เริ่มตีมีดมาตั้งแต่อายุ 16 ปี แรกเริ่มเดิมทีเป็นคนอยู่ที่บ้านลองตอง ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และย้ายมายังพื้นที่อำเภอเสิงสาง เมื่อ 40 ปีก่อน ครอบครัวก่อนนั้น ก็เป็นบ้านช่างตีมีดเก่าอยู่แล้ว จึงนำวิชาที่เป็นมรดกของครอบครัวมาประกอบอาชีพอยู่ที่พื้นที่อำเภอเสิงสาง ได้ทำมีดส่งขายทั้งในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง จนเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไป
ในช่วง covid-19 ระบาดหลายอาชีพเป็นขาลง แต่อาชีพของช่างตีมีดกลับสวนกระแสซึ่งเป็นขาขึ้น มีลูกค้าเข้ามาให้ สามารถทำมีดเป็นจำนวนมาก เพราะอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่อำเภอเสิงสาง
หลังจากที่รัฐบาลมีการมอบเงินเยียวยาให้เกษตรกร เกษตรกรก็มีเงินในการที่จะมาซื้ออุปกรณ์ในการทำเครื่องมือการเกษตร มีดของสามารถนั้นก็ขายไม่แพงราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่เล่มละ 180 บาท ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามขนาดของมีด ทำให้คุณตามีรายได้ต่อวันไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท
จนสามารถปลดหนี้ ธกส.ได้ในปีนี้ สามารถ มีหนี้อยู่ทั้งหมด 120,000 บาท ทำให้ชีวิตของคุณตาดีขึ้น ชีวิตก็มีความสุขขึ้น
กาแฟคั่วมือ รถจักรยานโบราณ ของหนุ่มวัย 34 อดีตเซลล์แมน
ไปที่จังหวัดราชบุรี มาชิมกาแฟสด สไตล์กาต้มมอคค่าพอท ที่มีกลิ่นหอมจากเมล็ดกาแฟคั่วด้วยมือชวนให้น่าหลงใหลเข้ามาจิบกาแฟสำหรับคลายเครียด และผ่อนคลายจากอาการง่วง ด้วยคาเฟอีน ที่เปิดเป็นร้านเล็กๆ ด้วยรถจักรยานโบราณที่มาดัดแปลงเป็นบาร์ขายกาแฟสด หน้าร้านข้าวแกงใต้ “รองแลข้าวแกงร้อยหม้อ” ริมถนนอุดมสิริ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี
เจ้าของร้านบาริสต้าหนุ่ม วัย 34 ปี คือ ราชันย์ เมาน้อย เป็นชาวเมืองราชบุรี ที่กำลังชงกาแฟสดให้กับลูกค้าที่แวะมาอุดหนุนทั้งเจ้าประจำและขาจรที่ผ่านไปมา
ราชันย์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ทำงานประจำเหมือนคนทั่วไป ทำงานบริษัทตำแหน่งเซลล์มา 6 ปี เกิดความเบื่อจึงลาออก แต่ด้วยความชอบมันไม่เหมือนกัน ก็เลยหาอะไรทำเป็นของตัวเอง มาขายน้ำอ้อยอยู่ระยะหนึ่ง และเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟเห็นรุ่นพี่ขายกาแฟสดโดยใช้รถจักรยานโบราณมาทำเป็นบาร์ขายกาแฟ ประกอบกับที่ตนเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนรักกาแฟ จึงได้รองศึกษาและเรียนรู้ซึ่งมีรุ่นที่ที่รู้จักกันแนะนำวิทีขายกาแฟให้ จึงมามองลู่ทางเพื่อที่จะมาขายกาแฟสดดู
ซึ่งตนจำได้ว่ามีรถจักรยานโบราณ 1 คันที่สมัยเรียนใช้ปั่นไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย หลังจากจบแล้วได้จอดทิ้งไว้ที่บ้านสภาพผุพังไปตามกาลเวลา รวมๆ แล้วก็ 15 ปี โดยรถคันนี้คือเป็นรถของรุ่นพี่ที่เขาจบไปแล้วเขาไม่เอาไปด้วย ตนก็เลยไปเอามาซ่อมแล้วเอามาขี่ไปเรียนหนังสือ จึงได้นำรถจักรยานโบราณมาทำเป็นบาร์ขาย นำมาบิ้วดัดแปลงเป็นบาร์ขายกาแฟสด โดยการลงทุนแบบเก็บเล็กผสมน้อย ค่อยๆ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าร้าน เริ่มต้นจากเงิน 5,000 บาท มีหม้อต้ม 5 ชิ้น เตาแก็ส ชุดชงกาแฟ
ราชันย์ เล่าต่อว่า สำหรับเมนูของทางร้านหลักๆ จะเป็นเมนูกาแฟสด โดยเมล็ดกาแฟสดที่ร้านคือจะใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วเองเป็นหลัก จะใช้เมล็ดกาแฟของไทยที่คิดมาทำสูตรผสมด้วยการบดมือเอง มีทั้งโรบัสต้า และ อาราบิก้า ที่สำคัญเป็นกาแฟอินทรีย์ ปลอดสารพิษด้วย
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีก ประมาณ 20 เมนูขึ้นไป เมนูกาแฟ เมนูชา และ เมนูน้ำหวานทั่วไป เริ่มราคาจาก 25 – 40 บาท ราคาจะกลางๆ ปัจจุบันเปิดขายมาได้ 2 ปี เริ่มแรกๆ ขายได้วันละ 10 แก้ว จนมาถึงทุกวันนี้ได้ย้ายมาขายที่ปัจจุบัน หน้าร้านข้าวแกงใต้ได้ 3 เดือน หลังจากที่เริ่มหันเข้ามาขายในเมืองถือว่าตอบโจทก์ที่ดีเลย มีการตอบรับจากลูกค้าที่เยอะตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ โอเคเลยครับ วันหนึ่งขายได้ประมาณเฉลี่ยแล้ว 50 แก้ว ต่อวัน และมีลูกค้าขาประจำที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟของตนเอง
หนุ่มโคราช เลิกทำนา หันมาปลูกกระบองเพชรตอสามเหลี่ยมขาย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไป ที่บ้านของ ทศพร เสวาภพ อายุ 24 ปี อยู่บ้านดอนโก่ย หมู่ 14 ตำบลโนนทองหลาง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ที่มีความชื่นชอบต้นกระบองเพชรเป็นพิเศษ ศึกษาเรียนรู้ทางโซเชียลจนสามารถขยายพันธุ์ปลูกกลายเป็นธุรกิจในครัวเรือน ที่สามารถสร้างรายได้เดือนละกว่า 20,000 บาท
โดย ทศพร เปิดเผยว่า ตนเองชื่นชอบรูปทรงที่สวยงามแปลกตาของต้นกระบองเพชร จึงหาซื้อมาประดับตกแต่งบ้าน และเนื่องจากเป็นพืชที่ดูแลง่าย จึงศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต จนสามารถการขยายพันธุ์ประสบความสำเร็จในการปลูก ด้วยการใช้เมล็ดและเพาะไม้ที่เป็นตอได้เป็นจำนวนมาก เช่น ตอสามเหลี่ยม ตอลูกผสม และโอพันเทีย ซึ่งตอนนี้ปลูกมานานกว่า 3 ปีแล้ว มีต้นกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์ นับพันๆ ต้น บางชนิดจะออกดอกมีสีสันสวยงาม เช่น สีชมพู สีแดง สีเหลือง สีขาว และบางชนิดก็จะไม่มีดอก แต่มีรูปทรงที่แปลกตา จนกลายเป็นสีสันสวยงามแทน จึงเพาะเมล็ดขยายพันธุ์ แล้วเปิดจำหน่ายแก่ผู้ที่ชื่นชอบไม้ประเภทนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท ถึงหลักพันบาท ซึ่งราคจะาแตกต่างตามลักษณะของแต่ละสายพันธุ์
ปัจจุบัน ได้ใช้พื้นที่ทำนาปลูกข้าว จำนวน 1 ไร่ หันมาปลูกตอสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นต้นพันธุ์ที่ใช้สำหรับต่อยอดของกระบอง ทำให้มีรายได้ดีกว่าการทำนา เฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังเปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบต้นกระบองเพชรได้เข้ามาดูอีกด้วย
ข่าวจาก : sanook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ