พ่อ-แม่ หนุ่มผู้ก่อเหตุขโมยบัตร ATM ของลุงพิการวัย 63 ปี เพื่อนบ้านชาว จ.บุรีรัมย์ แล้วแอบไปกดเงิน 200,000 บาท หลบหนีไป ยืนยันลูกชายเคยเป็นคนดี แต่มาเสียคนหลังจากเล่นโทรศัพท์ เคยก่อเหตุลักโทรศัพท์ถูกจับจำคุกมาแล้ว 1 ครั้ง ตอนนี้รู้สึกบอบชํ้า ถ้าลูกไม่เอาเงินมาคืนอาจจะต้องขายบ้านใช้หนี้แทน
จากกรณี นายเกษม บุญศรี อายุ 63 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ พิการอัมพฤกษ์ซีกขวา เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ถูก นายฟาง (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านวัย 30 ปี แอบขโมยบัตร ATM แล้วไปกดเงินในบัญชีจำนวน 200,000 บาท หลบหนีไป หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำปลายมาศ โดย นายฟาง ได้ติดต่อกลับมา พร้อมกับโอนเงินคืนมาให้ 50,000 บาท จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายบุญทรง (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี พ่อของนายฟาง กล่าวว่า ปกติลูกชายเป็นคนดี แต่มาเริ่มเสียคนตอนที่เล่นโทรศัพท์มือถือ ก่อนหน้านี้ไปทำงานในห้าง ก็เคยก่อเหตุขโมยโทรศัพท์แล้วถูกจับจำคุกมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก ตอนนี้อึดอัดมากที่ถูกผู้เสียหายมาทวงถาม คิดว่าถ้าลูกชายหายไปเลย อาจจะขายบ้านหลังที่อยู่ เพื่อเอาไปใช้หนี้แทน แล้วไปหาอยู่ตามที่สาธารณะ
ไว้ใจเพื่อนบ้านให้ทำทุกอย่างแทน สุดท้ายฉกATMกดเงินสูญ2แสน
ด้านนางมาลี (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี แม่ของนายฟาง กล่าวว่า เคยสอนลูกชายเสมอว่าไม่ให้ทำชั่ว แต่ทำไมกล้าทำกับคนที่เคยไปอยู่อาศัยกับเขา ตอนนี้พูดไม่ออก อยากให้ลูกเอาเงินมาคืนเขา เพราะพ่อแม่รู้สึกบอบช้ำจากการกระทำของลูก.
ข่าวจาก : dailynews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ