กรณีพนักงานร้านทอง “อึ้งเฮงหลี” สาขาศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้แชร์คลิปวิดีโอในแอพพลิเคชั่นติ๊กต๊อก เป็นชาย-หญิง คู่หนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายกล้วยทอด ได้ใช้รถเข็นนำถุงบรรจุเงินเหรียญจำนวนมาก เพื่อมาซื้อสร้อยคอทองคำ โดยมีพนักงานในร้านทอง ช่วยกันนับเงินเหรียญนานกว่า 3 ชั่วโมง ได้ยอดเงินรวมกว่า 120,000 บาท หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ใช้เหรียญดังกล่าวซื้อสร้อยคอทองคำรวมน้ำหนัก 4 บาท โดยแบ่งเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น และน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น เมื่อคลิปถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียล ปรากฏว่ามีชาวโซเชียลเข้าไปชื่นชมพนักงานร้านทองที่ช่วยกันนับเงิน และพ่อค้าแม่ค้าขายกล้วยทอดที่อุตสาหะเก็บออมเงินเหรียญมาซื้อทองเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันที่ 2 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้าน “กล้วยทอดเศรษฐี กินแล้วรวย” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกจอหอ ริมถนนสุรนารายณ์ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับเจ้าของเงินผู้ที่อยู่ในคลิป คือ น.ส.จีรนันท์ ใจเด็ด อายุ 24 ปี และนายจักรพงศ์ สอดสุข อายุ 32 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นแฟนกันทำอาชีพขายกล้วยทอด
โดยเดินขายอยู่บริเวณสี่แยกดังกล่าว ทั้งนี้ น.ส.จีรนันท์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นตนทำอาชีพมาแล้วหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะขายของออนไลน์ และรับสินค้ามาเปิดท้ายขายของตามตลาดนัด แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก แค่พออยู่พอใช้เท่านั้น
กระทั่งพบมีคนขายของตามสี่แยกไฟแดง ซึ่งขายดีมากช่วงที่รถติด จึงได้ปิ๊งไอเดียชวนแฟนมาทำกล้วยทอดขายกันตามสี่แยกไฟแดง ช่วงแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็ไปขายบริเวณสี่แยกไฟแดงประโดก แต่ขายไม่ดีนัก จึงได้ค้นหาสี่แยกอื่น จนกระทั่งได้พบสี่แยกจอหอ ซึ่งมีรถวิ่งผ่านในแต่ละวันจำนวนมาก และบริเวณนี้ก็มีเพียงคนขายพวงมาลัยเท่านั้น ยังไม่มีใครขายของกินอย่างอื่น จึงได้เช่าหน้าบ้านคนแถวสี่แยก ทำเป็นเพิงทอดกล้วยแล้วจ้างคนเดินขาย ปรากฏว่าขายดีมาก ต่อมาจึงได้ตั้งชื่อร้านว่า “กล้วยทอดเศรษฐี กินแล้วรวย” เพราะเป็นชื่อที่เป็นมงคล ทำให้ลูกค้าจดจำง่าย ซื้อไปกินนอกจากจะรสชาติอร่อยแล้ว ยังจะรู้สึกดีกับชื่อที่เป็นมงคลด้วย
หลังจากที่ขายดีขึ้น ปัจจุบันก็ได้ขยายสาขาไปที่สี่แยกบ้านโพธิ์ ต.จอหอ อีกหนึ่งร้าน โดยสาขาสี่แยกจอหอแห่งนี้ จะจ้างลูกน้องทั้งหมด 5 คน ได้แก่ คนทอดกล้วย 1 คน และคนเดินขายกล้วยทอด 4 คน ซึ่งนอกจากกล้วยทอดแล้ว ยังมีข้าวโป่งขายด้วย โดยในส่วนของกล้วยทอดนั้น จะบรรจุใส่ถุงขายถุง ละ 20 บาท ในแต่ละวันจะขายได้เฉลี่ยประมาณ 400 ถุง ซึ่งเงินที่ลูกค้าใช้ซื้อบางส่วนก็จะเป็นเงินเหรียญ ดังนั้นตนเองจึงได้เก็บออมเงินเหรียญไว้จำนวนมาก
โดยเงินเหรียญที่นำไปซื้อทองเมื่อวันที่ 26 พ.ย.64 ที่เห็นในคลิปนั้น เป็นเงินที่เก็บมาประมาณ 1 ปีแล้ว และเคยไปสอบถามร้านสะดวกซื้อแล้ว แต่เขาไม่รับแลก เมื่อจะนำไปฝากธนาคารก็ถูกคิดค่านับเหรียญ 2 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้านทองต่างๆ ซึ่งหลายร้านก็ไม่รับเงินเหรียญจำนวนมาก จนกระทั่งมีร้านทองอึ้งเฮงหลี สาขาเทอร์มินอล 21 โคราช ที่พร้อมจะรับเงินเหรียญ ตนจึงได้พาแฟนนำเงินเหรียญดังกล่าวไปให้พนักงานร้านทองช่วยนับ ซึ่งได้ประมาณ 120,000 บาท จึงได้ใช้เงินดังกล่าวซื้อสร้อยคอทองคำ 2 เส้น น้ำหนักรวม 4 บาท โดยทองคำที่ซื้อไว้นี้ ตนกับแฟนจะเก็บไว้เพื่อใช้เป็นค่าสินสอดที่จะจัดงานแต่งงาน ซึ่งมีแผนที่จะแต่งงานกันในปีหน้า
ทั้งนี้ตนเองก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่อยากจะเก็บเงินว่า อย่าดูถูกเงินเหรียญ แม้ว่าเงินเหรียญจะดูราคาน้อย แต่ถ้าเราพยายามเก็บออมอย่างต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เสมอ
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ