นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เผยพิจารณา แจกอีกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 16 ล้านบาท มาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 เริ่มต้นวันที่ 1 มี.ค. 2565
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มี.ค. ถึง 30 เม.ย. 2565 พร้อมกันนี้กระทรวงการคลังจะต้องพิจารณาให้เงินเพิ่มเติมกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 14 ล้านคน และกลุ่มเปราะบางอีก 2 ล้านคนด้วย ส่วนจะใช้งบประมาณดำเนินการเท่าไหร่ ขอพิจารณาจากงบประมาณที่เหลืออยู่ก่อน
“ที่ผ่านมาการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 จะทำเป็นแพ็กเกจ ทั้งการให้วงเงินตามมาตรการคนละครึ่ง การให้เงินเพิ่มกับผู้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบางมาตลอดทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็จะพิจารณาไปพร้อมกันกับการดำเนินมาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ด้วย เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 รอบใหม่เหมือนกัน” นายอาคม กล่าว
สำหรับการลงทะเบียนผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีต้องรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อน แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับ โดยยังจะได้รับสิทธิ์ต่อไปเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะมีการลงทะเบียนรอบใหม่
อย่างไรก็ดี มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ โควิด-19 ปี 2564 ที่ได้สิ้นสุดโครงการทั้ง 4 โครงการ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โดยมีผู้ใช้สิทธิสะสมทั้ง 4 โครงการรวม 41.5 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมทั้งหมด 254,281.7 ล้านบาท
โดย 1)โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 13.55 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 24,010 ล้านบาท 2)โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 1.51 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 2,183.3 ล้านบาท
3)โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.35 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท 10.87 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 223,921.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 113,936 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 109,985.8 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า
ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 88,712.9 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 36,037 ล้านบาท ร้านโอท็อป 10,843.2 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 84,160.7 ล้านบาท ร้านบริการ 3,900.1 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 267.9 ล้านบาท
และ 4)โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 91,952 ราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวนกว่า 4.9 แสนราย มียอดใช้จ่ายสะสมส่วนประชาชน 3,827.4 ล้านบาท มีมูลค่าการใช้จ่ายสะสมที่นำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher 3,064 ล้านบาท
คิดเป็นมูลค่าสะสม e-Voucher ทั้งสิ้นกว่า 353.8 ล้านบาท และมูลค่าการใช้จ่ายสะสมส่วน e-Voucher 339.2 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมรวมส่วนประชาชนและ e-Voucher แบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 197.6 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 214.4 ล้านบาท ร้านโอทอป 441 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 3,167.6 ล้านบาท และร้านบริการ 146 ล้านบาท
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ