ลุ้น! ศบค.เคาะ 33 จว. ดริงก์ในร้านถึง 5 ทุ่ม ปรับโซนสีพื้นที่ ลดกักตัวผู้สัมผัสโควิด 7 วัน รีเทิร์น T&G ต้องจ่ายค่าที่พัก -PCR 2 วัน
เมื่อวันที่ 20 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้มีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ทั้งนี้ที่ประชุมจะมีการพิจารณาปรับระดับสีของพื้นที่ พร้อมผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในประเทศ และพิจารณามาตรการเดินทางเข้าประเทศผ่านระบบเทสต์ แอนด์ โก (Test and go)
สำหรับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ที่มีการพิจารณาในที่ประชุม มีดังนี้
1.การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ด้วยหลักการและเหตุผลว่า การระบาดมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่และผู้ป่วยหนักคงที่ ผู้เสียชีวิตจำนวนลดลง มีบางจังหวัดที่ยังต้องจับตาใกล้ชิด โดยเฉพาะจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว ที่ยังพบการติดเชื้อในร้านอาหาร การรวมกลุ่มคนในงานประเพณีต่างๆ
2.การครอบคลุมวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้รับเข็มที่ 1 มากกว่า 75% และเข็ม 2 มากกว่า 70%
3.การกระจายของเชื้อโอมิครอน ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง
4.การดำเนินตามมาตรการทำให้สถานการณ์เป็นไปตามคาดการณ์และมีแนวโน้มดีขึ้น
จึงเสนอให้ปรับพื้นที่สี คือ
1.สีแดงเข้ม พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 0 จังหวัด
2.สีแดง พื้นที่ควบคุมสูงสุด 0 จังหวัด
3.สีส้ม พื้นที่ควบคุม จากเดิม 69 จังหวัด ให้เหลือ 44 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช น่าน บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง เพชรบุรี มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และ อุบลราชธานี
4.สีเหลือง พื้นที่เฝ้าระวังสูง จากเดิม 0 จังหวัด เพิ่มเป็น 25 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครพนม นครสวรรค์ นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ยะลา ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ และ อุทัยธานี
5.สีเขียว พื้นที่เฝ้าระวัง 0 จังหวัด และ 6.พื้นที่สีฟ้า จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัดคงเดิม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา ภูเก็ต และ (จังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่)
ขณะที่ มาตรการควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร พบว่า ภายหลังที่มีการควบคุม จำกัดเวลาการบริโภคสุราในร้านอาหาร ทำให้การระบาดลดลง ประกอบกับผู้ประกอบการแจ้งขอขยายเวลาการดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน จึงมีการพิจารณาให้ปรับมาตรการ 1.ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและลักษณะเดียวกันได้ ในพื้นที่สีฟ้า (8จังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว) และพื้นที่สีเหลือง (เฝ้าระวังสูงสุด 25 จังหวัด) 2.ขยายเวลาการดื่มในร้านจากเดิมให้ดื่มถึงเวลา 21.00 น. เป็น เวลา 23.00 น.
3.ให้จำกัดประเภทร้านอาหาร ต้องผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop Covid-19 และมาตรการ Covid-19 Free Setting
ส่วนมาตรการทำงานจากที่บ้าน (Work from home) ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและการพิจารณาของหน่วยงาน
นอกจากนี้ มาตรการลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้เหลือกักตัว 7 วันที่บ้าน ตรวจสอบอาการป่วยของตนเองทุกวัน ตรวจ ATK ครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 หรือวันที่ 6 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย และสังเกตอาการอีก 3 วัน สามารถออกนอกพื้นที่ได้ ไปทำงานได้ แต่ให้เลี่ยงการเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือเข้าพื้นที่แออัด ป้องกันตัวเองสูงสุด ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย
ถัดมาเป็นการปรับมาตรการป้องกันโรค สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ พิจารณาให้มีการปรับมาตรการสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยต้องมี Thailand Pass มีประกันวงเงินคุ้มครองมากกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐมีประวัติรับวัคซีนโควิด-19 ครบถ้วน ตรวจ RT-PCR จากประเทศต้นทาง ผลต้องเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึงราชอาณาจักรแล้ว จะต้องปฏิบัติ ดังนี้
1.การเข้าประเทศในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ให้มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พักกับโรงแรมที่กำหนด เป็นเวลา 7 วัน โดยรวมค่าตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งแล้ว
2.ระบบไม่กักตัว (Test and Go) ให้มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พักกับโรงแรมที่มีคู่สัญญากับโรงพยาบาล (รพ. ) จำนวน 2 วัน เพื่อรอผลตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และวันที่ 5 ของการเดินทาง ซึ่งผู้เดินทางจะต้องจ่ายค่าตรวจเองทั้งหมด
ทั้งนี้ ระบบ Sandbox สามารถเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปใน 26 จังหวัด และระบบ T&G ให้รอการเตรียมแนวทางจาก ศปก.กก. ก่อนเริ่มลงทะเบียน
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องให้ที่ประชุม ศบค. วันนี้ พิจารณาอนุมัติให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ