ศบค.ขยายฉุกเฉินอีก 2 เดือน เริ่มลงทะเบียน Test&Go ใหม่ในทุกประเทศ 1 ก.พ.นี้ ปรับลดวันกักตัวสัมผัสเสี่ยงสูงเหลือ 7 วัน เพิ่มแซนด์บ็อกซ์ชลบุรี ตราด
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า วันนี้มี 6 เรื่องสำคัญ คือ 1.สถานการณ์โควิด วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อ 8,129 ราย ในประเทศ 7,861 ราย มาจากต่างประเทศ 214 ราย และเรือนจำ 54 ราย เสียชีวิต 19 ราย อัตราเสียชีวิต 0.943% นอนรักษา 82,734 ราย อาการหนัก533 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 118 ราย
ระบบสาธารณสุขยังรองรับผู้มีอาการรุนแรงได้ สถานการณ์ติดเชื้อจริงค่อนไปในทางระหว่างเส้นสีส้มและเส้นสีเขียวของการคาดการณ์ที่เป็นสถานการณ์ที่พึงประสงค์ ก็ขอให้ช่วยกันร่วมมือกัน ส่วนเตียงใช้ประมาณ 30 กว่า % เรามี 147,000 กว่าเตียง ทรัพยากรเรายังใช้ได้
2.การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่ออีก 2 เดือน ที่ประชุมก็เห็นชอบ ถือเป็นคราวที่ 16 ใช้เพื่อป้องกันควบคุมโรคเป็นสำคัญ คือ วันที่ 1 ก.พ. – 31 มี.ค. 2565
3.การปรับระดับพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร หรือปรับพื้นที่สีให้สอดคล้องสถานการณ์ เราทบทวนทุก 2 สัปดาห์ เดิมเราปรับเป็นสีส้มทั้งหมด และ 8 จังหวัดท่องเที่ยวสีฟ้า ตอนนี้ผ่อนคลายมีสีเหลืองบางส่วน คือ พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 69 จังหวัด เหลือ 44 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิมไมมีเพิ่มเป็น 25 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือบางส่วน และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนจังหวัดนำร่องท่องเที่ยวสีฟ้ายังคง 8 จังหวัดตามเดิม ซึ่งจะช่วยให้ผ่อนคลายมาตรการกิจการกิจกรรมได้มากขึ้น
สำหรับพื้นที่สีเหลือง สามารถรวมกลุ่มกิจกรรมได้มากกว่า 1 พันคน สถานศึกษาสามารถใช้อาคารเรียนได้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเสนอแนะว่า 3 หมื่นกว่าโรงเรียน เปิดไปแล้วเกือบ 1.8 หมื่นโรงเรียน ยังมีอีกกว่าหมื่นโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนใหญ่ นักเรียนเป็นหลักพันยังไม่สามารถเปิดได้ จากการเว้นระยะห่างของนักเรียนในชั้น จึงเป็นข้อจำกัด เพราะพื้นที่มีจำกัด ผอ.ศบค.จึงให้ไปหารือมาตรการเพื่อให้นักเรียนกลับมาเปิดเรียนได้เหมือนเดิม ส่วนร้านอาหารให้ดื่มสุราในร้านอาหารได้ ศูนย์แสดงสินค้า โรงแรม จัดงานต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม
ส่วนการปรับมาตรการควบคุมโรคโควิด โดยมาตรการทำงานที่บ้าน ซึ่งเดิมถึง 31 ม.ค. เพื่อลดการเคลื่อนย้ายรวมกลุ่ม แต่ไม่น่าเป็นประเด็นแล้วจึงไม่ขยายเวลา ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของแต่ละหน่วยงาน การดื่มในร้านอาหารเดิมให้ดื่มถึง 21.00 น. ตอนนี้มีการร้องขอจากผู้ประกอบการขอขยายเวลา ที่ประชุมหารือเพื่อให้มีมาตรการผ่อนคลายจึงกำหนดที่ 23.00 น. แต่ต้องจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ได้ คือ ต้องผ่าน SHA+ และ Thai Stop COVID 2+ เท่านั้น และทำตามมาตรการ COVID Free Setting เท่านั้น หน่วยงานตรวจสอบจึงต้องเคร่งครัด หากไม่สามารถดำเนินการได้ต้องสั่งปิด มีความเข้มข้น หากละเมิดหรือหย่อนยาน ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องรับผิดชอบตรงนี้
ส่วนสถานบันเทิง ผับบาร์คาราโอเกะที่อยากปรับมาเป็นร้านอาหารที่เคยอนุญาตมาก่อน
ปรับมาตรการให้ผู้ประกอบการปรับมาตรการตามที่กำหนดและให้ขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ได้เมื่อมีความพร้อม โดยไม่กำหนดระยะเวลา เพื่อให้ผ่อนคลายกิจการกิจกรรม ขอให้รักษามาตรการนี้เพื่อจะได้รักษากิจการของท่านได้ต่อไป เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน
สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องถูกกักตัวนั้น นิยามใหม่คือ ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายหรือยืนยันในวันที่เริ่มป่วยหรือก่อนมีอาการ 2-3 วัน หรืออยู่ใกล้พูดคุยระยะ 2 เมตรนานกว่า 5 นาที หรือถูกไอจามรดใส่จากผู้ป่วย หรืออยู่ในสถานที่ปิด ไม่มีอาการถ่ายเทมากนักร่วมกับผู้ป่วยนานกว่า 30 นาที หากไม่สวมหน้ากากอนามัยก็เสี่ยงสูงด้วย เพื่อนำไปสู่มาตรการ วึ่งเดิมกักตัว 10 วันให้เหลือ 7 วัน โดยตรวจ ATK ครั้งที่ 1 วันที่ 5-6 ยังปลอดภัย วันที่ 7 ก็สามารถออกไปนอกพื้นที่ และตรวจซ้ำครั้งที่ 2 คือวันที่ 10 7 วันอยู่บ้าน 3 วันออกไปทำงานได้
4.การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร กระทรวงท่องเที่ยวฯ เสนอเรื่อง Test&Go เดิมลงทะเบียนไว้ประมาณ 3 แสนราย เข้ามาประมาณแสนราย หรือเดินทางจริงประมาณ 30% คนที่เข้ามาในประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษบกถือเป็นเรื่องที่ดี จึงเห็นชอบให้ลงทะเบียนใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ในทุกประเทศ แต่ต้องจองโรงแรมในการพักวันที่ 1 และวันที่ 5 และต้องตรวจ RT-PCR ที่พักวันแรกและวันที่ 5 รวมเป็น 2 ครั้ง ต้องมีหลักฐาน
ตั้งแต่ลงทะเบียนเข้ามา มีหลักฐานการชำระเงิน และต้องจ่ายเงินเองทั้งค่าโรงแรมและ RT-PCR รวมถึงเรื่องประกันต้องครอบคลุม เพราะที่ผ่านมาพบค่าห้อง ค่ารักษา หรือจำนวนวันมาอยู่ไม่เพียงพอ และต้องรวมถึงการเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงด้วย ต้องให้ครอบคลุมด้วย หากระบาดมากขึ้นจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์กลับมาใช้แซนด์บ็อกซ์แทน และต้องมีระบบติดตามตัวในการมาตรวจวันที่ 5 มีระบบแจ้งถ้ายังไม่เช็กอินเข้าโรงแรมนี้ ผู้ที่เป็น Manager ต้องติดตามตัวให้เจอ ให้มาพักวันที่ 5 เพื่อตรวจรอบที่ 2 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะเพื่อติดตามตัวให้ได้
ส่วนแซนด์บ็อกซ์ให้มีเพิ่มขึ้นที่ ชลบุรี อ.บางละมุง พัทยา ศรีราชา เกาะสีชัง สัตหีบ (เฉพาะตำบลนาจอมเทียนและบางเสร่) , ตราด (เกาะช้าง) การเปิดพื้นที่เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย พะงัน เกาะเต่า) ในช่วง 7 วันที่ต้องพำนักในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับในนักท่องเที่ยวทุกคนว่าไปไหนมา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.
5.แผนบริการให้วัคซีนโควิด 19 ที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมาย ครอบคลุม 72.1% ของประชากร เดิมตั้งไว้ 72 ล้านคน แต่มีการปรับฐานประชากรนับให้ตรงกัน จึงเอาฐานประชากรจากสำนักทะเบียนกลาง กระทรวงมหาดไทย ตามสิทธิรักษาข้อมูลจังหวัด และตามสิทธิรักษา สปสช. ตัวเลขยอมรับคือ 68.6 ล้านคน รวมและไม่มีสิทธิรักษาทั้งสัญชาติไทยและไม่ใช่สัญชาติไทย อีก 0.96 ล้านคน รวม 69.6 ล้านคน น้อยกว่าเดิม 2 ล้านคน
ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนมี 4 แผน คือ 1) การฉีดวัคซีนกลุ่มเด็ก 5-11 ปี วัคซีนไฟเซอร์โดสเด็กกำลังเข้ามา ล็อตแกรปลายเดือนนี้ 2) แผนรณรงค์เร่งรัดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในเข็มกระตุ้น ห่างจากเข็มก่อนหน้า 3 เดือน 3) แผนการส่งคืนวัคซีนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ คือสิงคโปร์และภูฏานที่ยืมมา และ 4) การบริจาควัคซีนให้แก่ต่างประเทศ ส่วน ก.พ. จะมีวัคซีนบริหารจัดการรวม 11.6 ล้านโดส
และ 6.การนำเข้าแรงงาน 3 สัญชาติ มีคำร้อง 7.4 หมื่นกว่าคำร้อง ออกหนังสือถึงประเทศต้นทางแล้ว 44,243 ราย ใน 3 ประเทศ ส่วนใหญ่มาจากเมียนมา 3 หมื่นกว่าคน เพื่อให้เข้ามาอย่างถูกต้อง ซึ่งประเทสเราต้องใช้แรงงาน
เพื่อลดการลักลอบเข้าเมือง และมีมาตรการในการติดตามหากมีแอปพลิเคชันเพื่อป้องกันควบคุมโรคด้วยจะดี เปลี่ยนจากภาระมาเป็นแรงงานเป็นพลังให้เรา ให้ทุกหน่วยงานดูแลในระดับพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่สีเหลือง 25 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครพนม นครสวรรค์ นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ยะลา ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ