เปิดใจหมอ ทวงค่าเวร เจ้าของคลินิกฉุน ใช้ร่มฟาดไม่ยั้ง ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด รอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตร.อยู่ระหว่างออกหมายเรียก
จากกรณีเพจ “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ” โพสต์คลิปเหตุการณ์ หมอเข้าไปทวงเงินค่าเวร เจอเจ้าของคลินิกหัวร้อน ใช้ร่มฟาดหมอไม่ยั้ง
สำหรับความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 29 ม.ค. 65 ข่าวสดออนไลน์ ได้คุยกับ คุณหมอ ที่ถ่ายคลิป เล่าว่า ทำงานที่คลินิกนี้มา 1 ปี ซึ่งทางคลินิกค้างจ่ายค่าเวร ตั้งแต่เดือน ธ.ค.63 – เม.ย.64 เป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท
ในช่วงเดือน เม.ย.64 มีปัญหาเกิดขึ้น คลินิกปิดไม่ยอมแจ้งล่วงหน้า โดยบอกว่า “หลังสงกรานต์คลินิกจะกลับมาเปิด” แต่พอหลังสงกรานต์ก็เงียบ ติดต่อไม่ได้ จนถึงวันเข้าเวรก็เข้าไปที่คลินิกเลย เมื่อไปถึงเห็นว่าคลินิกปิด ตอนนั้นมีปัญหานิดหน่อย กับคู่กรณีที่เป็นหุ่นส่วนคลินิก แต่หุ่นส่วนอีกคนหนึ่งก็เซ็นยอมรับสภาพหนี้แล้ว เป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท และก็ทยอยจ่ายมาเรื่อยๆ
ต่อมาเดือน ต.ค.64 ทางคลินิกก็ได้ติดต่อให้มาเข้าเวรที่คลินิก ครั้งแรกเมื่อเข้าไปที่คลินิกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จนกระทั่งไปเข้าเวรที่คลินิก ครั้งที่ 2 ได้เจอกับคู่กรณี โดยไม่คิดว่าจะเจอ เพราะมีช่วงหนึ่งที่เขาหายไปจากธุรกิจนี้
โดยเหตุการณ์ในคลิป เกิดขึ้นวันที่ 12 ต.ค. 64 ขณะที่เข้าเวรอยู่ คู่กรณีนำอาหารมาให้กิน แต่ตนไม่ชอบกิน เลยบอกไปว่า “ไม่ชอบกิน ไม่ชอบ” คู่กรณีจึงไม่พอใจ บอกว่า “อาทิตย์หน้าจะเปิดคลินิก หมอไม่ต้องมาแล้ว” ตนเลยทวงเงินค่าเวร ที่ค้างจ่ายอีก 24,000 บาท ถ้าคุณจะปิดคลินิก ต้องเคลียร์ให้จบภายในวันนี้
แต่ทางคู่กรณีบอกว่า “พูดจาไม่ดี พูดจาไม่มีมารยาท” ตนจึงตอบไปว่า “ทวงเงินค่าเวร นี่เสียมารยาทตรงไหน” คู่กรณีจึงเริ่มโวยวาย และไล่ออกจากคลินิก บอกว่า “ไม่ต้องมาทำงานแล้ว” และใช้ร่มดันตนออกจากคลินิก จากนั้นใช้ร่มฟาดที่ศีรษะ หน้าผาก นิ้ว แขน และโทรศัพท์
ตนได้รับบาดเจ็บ มีแผลฟกช้ำที่หน้าผากและนิ้ว ผลการตรวจร่างกาย พบว่า บริเวณศีรษะได้รับกระทบกระเทือนเล็กน้อย โดยวันนั้นทางหุ่นส่วนอีกคน รีบโทรมาขอโทษแทน และจ่ายเงินค่าเวร ที่ค้างอยู่ 24,000 บาท และได้ไปแจ้งความที่สน.ลุมพินี กทม. ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างออกหมายเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา ตนยืนยันว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด รอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คุณหมอ บอกอีกว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุ คู่กรณีไม่เคยติดต่อมาขอโทษ หรือเยียวยาอะไรเลย และยังฟ้องกลับข้อหาบุกรุก ส่วนเหตุผลที่ส่งคลิปนี้ให้ทางเพจ “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ” เกิดจากคู่กรณีโพสต์ประกาศหาแพทย์มาทำงานที่คลินิก ซึ่งก็มีคนมาเตือนมาให้ระวัง ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ โพสต์โจมตีคนที่เตือน ซึ่งเพจ “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ” เห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงนำไปโพสต์ หลังจากนั้นคู่กรณีก็ได้โจมตีเพจมาตลอด ตนเงียบมา 3 – 4 เดือน จนรู้สึกว่า “ไม่ได้แล้ว ไม่อยากให้ใครมาโดนแบบตัวเอง อยากให้คู่กรณีหยุด” จึงส่งคลิปนี้ไปทางเพจ เพื่อเตือนให้แพทย์คนอื่นระวัง
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ