อ้างพาไปทำงานที่ออสเตรเลีย เก็บค่าหัวคิวคนละ 1.5 แสน สุดท้ายไปไม่ได้ ต้องเจรจาขอเงินคืน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รอง สว.สอบสวน สภ.นาข่า นัดหมาย น.ส.กุ้ง นามสมมุติ (กันตพร พยัคฆวงษ์) อายุ 42 ปี ผู้ถูกกล่าวหา และผู้เสียหาย 9 ราย ราษฎรบ้านงอยเลิงทอง ม.14 ต.นาข่า เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย คดี “ฉ้อโกงเงิน” 1,316,000 บาท โดยมีผู้เสียหาย 1 ราย น.ส.กุ้ง ได้ไกล่เกลี่ยชดใช้เงินคืนไปแล้ว โดยมีนายสมหมาย สิงห์น้อย เจ้าพนักงานแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “หลอกลวงว่าสามารถพาไปทำงานต่างประเทศ” กับ น.ส.กุ้ง ด้วย
เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ ก.พ.2563 น.ส.กุ้ง อ้างว่าสามารถพาไปทำงานเก็บผลไม้ ที่ออสเตรเลียได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ต้องจ่ายเงินคนละ 150,000 บาท เพื่อไปทำงาน 2 ปี และจะได้ไปทำงานช่วง มิ.ย.2563 ผู้เสียหายได้วางเงินไป 10 ราย เมื่อถึงเวลา น.ส.กุ้ง อ้างว่าเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เดินทางไปทำงานไม่ได้ เนื่องจากมีการปิดประเทศ และผลัดเวลาการเดินทางมาเรื่อย ต่อมาผู้เสียหายขอเงินคืน มีการเจรจากันนานกว่า 2 ปี เพราะเชื่อใจว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน จนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.นาข่า เมื่อ 1 พ.ย.2564 แล้วร้องเรียนต่อจัดหางาน จ.อุดรธานี กระทั่งมีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดย น.ส.กุ้ง ปฏิเสธให้สัมภาษณ์
นายศุภโชค บุตรธนู อายุ 42 ปี ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คู่กรณีได้ขอแบ่งจ่ายเงินคืนเป็น 3 งวด ซึ่งวันนี้งวดแรกจ่ายมา 500,000 บาท รายละ 55,555 บาท งวดที่ 2 จ่ายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ในจำนวนเงิน 450,000 บาท รายละ 50,000 บาท และงวดที่ 3 จ่ายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ในจำนวนเงินที่เหลือ 366,000 บาท รายละ 40,666 บาท พวกเราในฐานะผู้เสียหายก็รู้สึกพอใจในบางสิ่งที่รอมานานถึง 2 ปี และเหนื่อยพอสมควร ที่จำเป็นต้องมาหาตำรวจ
“ อยากฝากถึงคนที่อยากไปทำงานต่างประเทศ ควรตรวจสอบหรือศึกษาว่าประเทศไหนเขาเปิดให้ไปทำงานได้หรือไม่ได้อย่างไร และอย่าหลงผิดเหมือนกับพวกผม ที่เป็นอุทาหรณ์ให้สังคมรับรู้ อย่าไปหลงเชื่อใครง่ายๆ แล้วจะมานั่งทุกข์ใจนานนับปีอย่างพวกผม ทางที่ดีควรไปติดต่อสอบถามท่านผู้รู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ที่ สนง.จัดหางานจังหวัด ตามภูมิลำเนาที่ท่านอยู่จะดีกว่า และตอนนี้ในส่วนตัวของตนยังไม่อยากเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพราะยังเข็ดกับเรื่องนี้อยู่ ถ้าคิดยากจะไปจะติดต่อ สนง.จัดหางานจังหวัดอุดรธานี ”
นายสมหมาย สิงห์น้อย เจ้าพนักงานแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางานจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้เสียหายกับคู่กรณีได้มาเจรจาไกล่เกลี่ย ตกลงชดใช้ค่าเสียหายในคดี “ฉ้อโกง” ต่อหน้าพนักงานสอบสวน มีการลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคดีจัดหางานโดยผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป ซึ่งในคดีนี้มีอัตราการลงโทษ จำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ