‘บิ๊กตู่’ แย้มจ่อ ‘คนละครึ่งเฟส5’ เข็นช่วยปชช. ห่วงรายได้ไม่พอจ่าย ครม.ปรับเกณฑ์ลดค่าไฟ-น้ำมัน
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำหรับการจัดทำงบประมาณปี 2566 ได้ให้หลักการไปแล้วว่า ทำอย่างไรที่จะนำพาประเทศผ่านปัญหาอุปสรรคและวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้หลักการว่าจะทำให้อยู่รอด ปลอดภัย พอเพียง และนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ในเรื่องการแก้ปัญหาระบบการเงิน การคลัง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้รายงานว่า ยังมีเสถียรภาพเข้มแข็งเพียงพอ แต่เป็นห่วงการใช้จ่ายเงินของประชาชน วันนี้รายได้ลดลง ขณะเดียวกันราคาสินค้าอุปโภคบริโภค พลังงานสูงขึ้น ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันเกือบถึง 50% ของรายได้ หรืออาจจะมากกว่านั้น ดังนั้น ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เมื่อมีเงินน้อยต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานะแต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่สนใจเรื่องของความเหลื่อมล้ำ
เมื่อถามว่า มาตรการที่กำลังพิจารณามีโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้ให้แนวทางไปแล้ว ซึ่งใช้เงินจำนวนมากพอสมควร แต่ผลดีก็มีมากเช่นกัน เพราะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนอีกหลายเท่า แต่ปัญหาอยู่ที่จะเอางบประมาณมาจากไหน บางอย่างต้องเข้าใจกันบ้างถึงเหตุผลและความจำเป็น เพราะทุกวันนี้ก็ใช้จ่ายอย่างประหยัดเท่าที่มีงบประมาณอยู่ ประเทศได้รับผลกระทบในโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังมีความเสี่ยงหลายอย่างอยู่ และมาเจอสงครามรัสเซียกับยูเครนอีก ทุกรัฐบาลไม่เคยเจอสถานการณ์นี้มาก่อน คิดว่าทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่แล้ว และขอความร่วมมือประชาชนให้เข้าใจเท่านั้น ถ้ามัวแต่โจมตีกันไปมาจะทำอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า ได้เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดในมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน ดังนี้ 1.การปรับปรุงถ้อยคำมาตรการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) จากเดิมให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ปรับเป็นโดยให้ส่วนลดค่าเอฟที แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม
นายธนกรกล่าวว่า 2. มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน จากเดิมที่ให้ส่วนลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 106,655 คน ในรูปแบบรัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท /คน/เดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการช่วยเหลือค่าน้ำมันครอบคลุมทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และสามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคล่องตัวด้วย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะสามารถกดยืนยันสิทธิและเงื่อนไขผ่านแอพพลิเคชั่น และจ่ายเงินโดยสแกน QR Code ณ สถานีบริการน้ำมัน ที่เข้าร่วมโครงการ
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ