โควิดดิลิเวอรี จ่ายยาถึงบ้าน สปสช.จับมือ 400 ร้านจัดให้
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า
จากการคาดการณ์ว่าหลังสงกรานต์จะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น สายด่วน 1330 ของ สปสช. จึงได้เตรียมระบบรองรับการรับสายเพื่อจับคู่ผู้ติดเชื้อกับหน่วยบริการใกล้บ้าน เพราะที่ผ่านมา เคยมีการติดต่อเข้าไปสูงสุดสุดช่วงต้นเดือนมีนาคม มากถึง 70,300 สาย แต่พบว่า อัตราการโทรฯ เข้าช่วงก่อน ระหว่าง และหลังสงกรานต์ ไม่ได้สูงขึ้น โดยเฉลี่ยที่ 11,000-17,000 สาย
ประกอบกับเมื่อมีโครงการ “เจอแจกจบ” ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประชาชนกลุ่มติดเชื้อแต่อาการน้อยสามารถไปขอรับยากลับบ้านได้ และทางสปสช.ได้จับมือกับร้านขายยาทั่วประเทศกว่า 400 แห่ง ร่วมกันทำระบบเจอแจกจบใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีเภสัชกรติดตามอาการใน 48 ชั่วโมงแรก
“ขณะนี้ ผลตอบรับจากประชาชนดีมาก เพราะร้านยามีความสะดวก โดยเภสัชกรประจำร้านได้เตรียมทำฉากกั้นเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่จะไปรับยา บางแห่งให้ติดต่อผ่านไลน์ ซักถามอาการ จ่ายยาส่งให้ถึงบ้านแบบเดลิเวอร์รี่ เพิ่มความสะดวก และลดการออกมาจากบ้าน ประชาชนก็ชื่นชม มีความแฮปปี้มาก” ทพ.อรรถพร กล่าว
โฆษก สปสช. กล่าวว่า ส่วนของสายด่วน 1330 จะมีทั้งเจ้าหน้าที่ จิตอาสา ความร่วมมือจากทหารที่ตั้งศูนย์รับสายไว้ ก็ขอให้ช่วยรับสายต่อถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ และคงอุปกรณ์ไว้ในโหมดสแตนด์บาย ขอดูสถานการณ์ต่อไปอีก 1 เดือน คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อทำประเมินยกเลิกปฏิบัติการ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สำหรับงบประมาณที่ใช้ดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่รักษาที่บ้าน (Home Isolation) และที่ชุมชน (Community isolation) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564-เดือนมีนาคม 2565 รวม 767,342 ราย เป็นเงิน 2,566.04 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ร้านขายยาที่เข้าร่วมเจอแจกจบ มีการเบิกจ่ายกับ สปสช. แล้ว 1,082 ราย หลังจากนี้จะมีการทยอยเบิกจ่ายเข้ามาอีก
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ