พ่อช็อกกะทันหันในสนามบิน ถูกหามส่ง รพ.คิดเงิน1.3หมื่น อ้างพื้นที่ปกครองพิเศษ





หนุ่มกู้ภัยร้อง พ่อช็อกกระทันหันกลางสนามบิน แต่รถกู้ภัย-มูลนิธิเข้าไม่ได้ อ้างเหตุเป็นพื้นที่ปกครองพิเศษ ต้องใช้รถคลินิกเอกชน สุดท้ายพ่อเสียชีวิต แถมถูกเรียกเก็บเงิน 13,000 บาท…

นายภัคพล เมธีภักดี อายุ 37 ปี หนุ่มกู้ภัย เล่าว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 19.40 น. คุณพ่อซึ่งทำอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ ได้ขับรถไปส่งผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเกิดอาการช็อกกะทันหัน และหมดสติ บริเวณถนนหน้าชานชาลาด้านนอกอาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 6 เนื่องจากป่วยเป็นโรคหัวใจ พลเมืองดีจึงช่วยโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาลหรือรถกู้ภัย มารับตัวพ่อไปโรงพยาบาล ซึ่งรถพยาบาลได้นำตัวพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลรัฐ ย่านประเวศ เมื่อเวลา 20.00 น.

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. พ่อหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตลง เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนมานานเกิน 4 นาทีหลังนั้นได้มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเข้ามา แจ้งว่าเป็นทีมกู้ชีพของ คลินิกรพ.เอกชนที่ประจำอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นคนนำตัวพ่อไปส่งที่โรงพยาบาล พร้อมเรียกเก็บเงิน 13,000 บาท อ้างเป็นค่ารักษาและค่าอุปกรณ์ ทั้ง น้ำเกลือ ใส่ท่อช่วยหายใจ และตรวจแล็ป

นายภัคพล จึงสอบถามว่าทำไมคิดค่าบริการ เพราะเหตุพ่อช็อกเป็นกรณีฉุกเฉิน สามารถทำเรื่องเบิกกับทางรัฐบาลได้ แต่ทีมกู้ชีพของ รพ.เอกชน แจ้งว่า ไม่ได้อยู่ในระบบ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพื้นที่เขตปกครองพิเศษ หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นเจ้าของพื้นที่หรือคลินิกรพ.เอกชนที่ประจำการอยู่ เพียงรายเดียว จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเท่านั้น รถพยาบาลในระบบหรือรถมูลนิธิ ไม่สามารถเข้ามารับตัวผู้ป่วยได้

นายภัคพล บอกว่า ส่วนตัวเข้าใจสนามบินสุวรรณภูมิ และรู้สึกขอบคุณคลินิก รพ.เอกชน ที่ช่วยเหลือนำตัวพ่อส่งโรงพยาบาล แต่ยังรู้สึกติดใจ ที่ถูกเรียกเก็บเงินภายหลัง เพราะเหตุการณ์พ่อช็อก หมดสติ เข้าเงื่อนไขของ UCEP หากเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินจะทำอย่างไร คนจนจะไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือหรือไม่ และทำไมถึงไม่มีทางเลือกให้ประชาชน เหมือนมัดมือชก

อีกทั้งค่าใช้จ่าย ที่คลินิก รพ.เอกชน เรียกเก็บมีค่าใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ทำไมแพทย์ที่ทำการรักษาพ่อ แจ้งว่า สมองของพ่อขาดออกซิเจนก่อนถึงโรงพยาบาลนานเกิน 4 นาที ทำให้แพทย์ที่พยายามช่วยปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถแล้วแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งตอนนี้ นายภัคพลยังไม่ได้ติดต่อจ่ายเงินกับทางคลินิก รพ.เอกชน เพราะยังไม่มีความพร้อมเรื่องเงิน และต้องรอให้เสร็จงานฌาปนกิจพ่อก่อน

ขณะที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ออกหนังสือชี้แจง ยืนยันว่า หากมีเหตุฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุหรือมีผู้ใช้บริการเจ็บป่วยกะทันหัน สามารถแจ้งสายด่วน 1669 ให้ สพฉ. นำรถฉุกเฉินเข้ามารับผู้ป่วยในพื้นที่ได้ โดย ทสภ. ไม่ได้มีนโยบายห้ามมิให้รถฉุกเฉินจาก สพฉ. เข้ามาในพื้นที่สาธารณะแต่อย่างใด

โดยในช่วงวันและเวลาเกิดเหตุ ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานหน่วยแพทย์จากคลินิกสมิติเวชสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นหน่วยให้บริการทางการแพทย์ภายใน ทสภ. ในช่วงนอกเวลาทำการ โดยทีมแพทย์ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์ได้เข้าพื้นที่ทันทีหลังได้รับการแจ้งเหตุ และได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยคนดังกล่าว ซึ่งจัดเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน และจากนั้นทีมแพทย์จึงได้นำส่งผู้ป่วยเพื่อทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสิรินธร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่ตั้งอยู่ใกล้ ทสภ. และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อมให้การรักษา.

 

ข่าวจาก : one31

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: