“เจ๊เกียว” เปิดใจ ขาดทุน ไร้คนสืบทอดกิจการ จ่อปิดฉาก 65 ปี ”ธุรกิจรถทัวร์”
ทุกครั้งเมื่อราคาน้ำมันปรับขึ้น ต้องเห็นเจ้าแม่รถทัวร์ ”เจ๊เกียว” หรือ นางสุจินดา เชิดชัย ออกมาเคลื่อนไหวขอขึ้นค่าโดยสาร
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 จะเป็นอีกครั้งที่ ”เจ๊เกียว” ซึ่งวันนี้สวมหมวก 2 ใบ นั่งเป็นนายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมรถโดยสารบขส.และเจ้าของอู่รถเชิดชัยและ บริษัท เดินรถเชิดชัย ตบเท้าเข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมการขนส่งขอปรับค่าโดยสารอีก 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร หลังราคาน้ำมันดีเซลดีดขึ้น 32 บาทต่อลิตร เกินจากที่คำนวนไว้ 27 บาทต่อลิตร
“ตั้งแต่โควิดระบาด ผู้ประกอบการรถทัวร์ได้รับผลกระทบหนักมาก มีหยุดวิ่งและเลิกกิจการไปก็เยอะ จากที่เรามีอยู่กว่า 3,000 คัน ตอนนี้เหลือยู่แค่ 30% เพราะวิ่งไปก็ไม่คุ้ม ไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกให้ผู้ประกอบการวิ่งวันละ 1 ขา ใน 1 จังหวัด คือ ไป 1 เที่ยว กลับ 1 เที่ยว ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีรถร่วม 4-5 บริษัทที่สลับวิ่งบริการได้ หากบริษัทใดบริษัทหนึ่งหยุดวิ่ง”เจ๊เกียวเปิดใจ
ในส่วนของเชิดชัยทัวร์ “เจ๊เกียว” อัพเดตให้ฟังว่า ปัจจุบันได้นำรถวิ่งให้บริการอยู่ประมาณ 20-30%จากทั้งหมดมีอยู่กว่า 200 คัน และได้หยุดวิ่งบางเส้นทางเป็นการชั่วคราวในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะไม่มีผู้โดยสารและลดภาระค่าใช้จ่าย ส่วนรถที่เหลือมีจอดทิ้งไว้และปรับเป็นรถรับจ้างวิ่งรับส่งพนักงานบริษัทและรัฐวิสาหกิจ ส่วนพนักงานบริษัทนั้น ไม่มีเงินเดือนให้ จะมีเฉพาะค่าเบี้ยขยันให้เท่านั้น
“ฉันทำธุรกิจรถทัวร์มา 65 ปีแล้ว เป็นธุรกิจครอบครัวของฉันเอง ตอนนี้รายได้ไม่มีเหลือเลย ถ้าหากฉันนำรถออกวิ่งทุกคันในตอนนี้ ฉันต้องรับภาระขาดทุนน้ำมันเดือนละ 4 ล้านบาท คงรับไม่ไหว เลยต้องวิ่งบ้าง หยุดบ้าง สลับกันไป เพราะวิ่งไป ก็ไม่มีคน เดี๋ยวนี้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป ไม่ค่อยนั่งรถทัวร์ ซึ่งธุรกิจรถทัวร์ได้รับผลกระทบตั้งแต่ปี 2560 จากโลว์คอสต์ ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2563 เจอโควิดระบาด ทำให้คนเปลี่ยนไปใช้รถส่วนตัว ไม่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเหมือนเมื่อก่อน”
จากสภาพธุรกิจรถทัวร์ที่ขาลง ประกอบกับอายุที่มากขึ้นทุกวันนี้ ทำให้”เจ๊เกียว”เริ่มจะถอดใจธุรกิจที่ครอบครัวปลุกปั้นมากว่า 6 ทศวรรษ
“ฉันจะขายกิจการเดินรถทัวร์ เพราะอายุฉันปีนี้ก็ 85 ปีแล้ว ส่วนลูก 4 คน ก็ไม่มีใครอยากจะสืบทอดกิจการ จึงคิดว่าจะขายดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมามีคนมาเจรจาขอซื้อ แต่ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะเขาเกี่ยงไม่เอารถ เอาแต่โควต้าเดินรถอย่างเดียว “
“เจ๊เกียว” ยังบอกว่าอีกว่า ถึงจะขายธุรกิจรถทัวร์ แต่ครอบครัวยังมีธุรกิจอื่นอีก เช่น ธุรกิจต่อตัวถังรถโดยสาร รับจ้างเดินรถรับส่งพนักงานบริษัทเอกชน และรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจให้เช่าที่ดินที่มีอยู่หลาย 1,000 ไร่ ปัจจุบันนำที่กว่า 300 ไร่ ให้ห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในนครราชสีเช่าและมีบางแปลงที่ประกาศขาย เพื่อลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ปีนี้รัฐเก็บเต็มอัตรา 100%
“ที่ดินที่มีอยู่ ฉันซื้อไว้นานแล้ว ตั้งแต่ราคาตารางวาละ 30-40 บาท แบ่งให้เช่าและแบ่งให้รัฐใช้ก่อสร้างถนนก็มี ตอนนี้มีบ้างที่นำมาขาย เพื่อนำเงินมาจ่ายภาษีที่ดินที่ปีนี้ต้องจ่าย 30 ล้านบาท ฉันว่ารัฐก็ทำไม่ถูกมาเก็บภาษีที่ดิน 100% ในช่วงที่คนกำลังเดือดร้อน”
เป็นการเปิดใจของ ”เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์ ในวันที่โลกและธุรกิจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ