“ราชกิจจานุเบกษา” ขยายระยะเวลา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คุม “โควิด” ทั่วราชอาณาจักรต่ออีก 2 เดือน ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 65
(27 พ.ค. 2565) “ราชกิจจานุเบกษา” ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุม โควิด โดยออกประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร(คราวที่ 18) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 17 ออกไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2565 นั้น
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของ โควิด มีการฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงของโรคในหมู่ประชาชนทุกช่วงวัย ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวลดลงเป็นลำดับ จนสามารถผ่อนปรนให้ประชาชนและผู้ประกอบการ สามารถดำรงชีวิต และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับปกติมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดการเรียนการสอนในสถานศึกษาทั่วประเทศ แต่เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคดังกล่าวทั่วโลก
ยังคงรุนแรง มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น และระบาดแพร่หลายเป็นระยะ และต้องใช้เวลาในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมมากกว่าที่เป็นอยู่
อีกทั้ง องค์การอนามัยโลก ยังคงระดับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) กรณีจึงยังคงมีสถานการณ์ฉุกเฉิน อันกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำรงไว้ ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 จึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2565 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2565
ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ