12 มิถุนายน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ในงาน “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” วันสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ภายใต้แนวคิด กัญชาคืนชีวิตสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้กัญชา-กัญชง เชิงการแพทย์ สำหรับการดูแลสุขภาพ และกระตุ้นเศรษฐกิจ
บรรยากาศเวลา 10.30 น. ที่ห้องสัมมนาหลัก บนชั้น 2 ของสนามช้างฯ เซอร์กิต มีการสัมมนาในหัวข้อ “งานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลายน้ำจาก CBD” โดย รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รศ.ดร.วีรชัยกล่าวถึง ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 425 ว่า เน้นเรื่องน้ำมันกัญชงอย่างเดียว ซึ่งมีรายละเอียดเยอะมาก กฎกระทรวงฉบับแรกๆ รายละเอียดจะค่อนข้างเยอะ น้ำมันมันจากเมล็ดมีอะไรในนั้น เพราะไม่มีทั้ง THC CBD เวลาปลูก ปลูกแบบเอาต์ดอร์ บนภูเขา เป็นท้องทุ่ง ให้ตัวเมียตัวผู้ผสมกัน แต่ถ้าเอา CBD ต้องปลูกเฉพาะตัวเมีย
“ที่ออสเตรเลีย เก็บเกี่ยวโดยใช้รถ จากนั้นเอาเมล็ดมาเข้าโรงงาน กับ เมล็ดส่งโรงบีบ(กลั่น)น้ำมัน ไม่ต้องขออนุญาตเหมือนกับโรงผลิต CBD ที่ต้องขออนุญาตจาก อย. ประกาศฉบับที่ 425 ควบคุมอยู่ เมื่อบีบออกมาได้น้ำมัน จากนั้นกรองให้ใสปิ๊ง เรียกว่า น้ำมันเฮมป์ ซีด ออยล์ (Hemp Seed Oil) ราคาลิตรละ 15,000 บาท CBD กิโลกรัมละ 300,000 บาท เอามาทำอาหาร หรือเครื่องดื่ม ไอศรีมได้ ต้านอนุมูลอิสระสูง ใส่ในซอฟต์เจลก็ได้ กากที่ได้ เอาไปทำซูเปอร์โปรตีน เอาไปนึ่งทานเหมือนข้าวฝรั่งชอบมาก เอาไปทำซีเรียลก็ได้ กลายเป็นรสชาติแบบไทย หรือไปทำแบบเครื่องสำอาง อย่าง พิมรี่พาย ขายเครื่องสำอางจาก เฮมป์ ซีด ออยล์ เป็นสบู่ แชมพูเยอะไปหมด มูลค่าทางการตลาดพอสมควร ถ้าหากจะพัฒนาไปแนวนี้ ให้ดูประกาศ สธ. ฉบับที่ 425” รศ.ดร.วีรชัยกล่าว
รศ.ดร.วีรชัยกล่าวต่อว่า ถัดมาคือประกาศ สธ.ฉบับที่ 427 ที่ให้มีบางองค์ประกอบของใบ ต้น ราก ยกเว้นใบใกล้ช่อดอก และช่อดอก สำหรับเอาไปใส่ในอาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งประกาศ สธ.ฉบับที่ 427 นี้ เป็นที่มาของน้ำดื่มใบกัญชาที่ทำขายออกมา อิงจากประกาศฉบับนี้ ขึ้น อย.เองได้ ต้องผ่านมาตรฐาน GMP แต่ง่ายกว่านั้นคือขึ้นโอท็อป
“จะเห็นว่ามีการทำน้ำดื่มจากใบกัญชา กัญชง เยอะแยะเต็มไปหมด ตัวนี้ทำง่าย เอาใบมาต้มกรอง แต่งสีแต่งกลิ่น แต่รส จบ ใครแต่งได้อร่อย คนนั้นก็ขายดี เหมือนไข่เจียว อร่อยคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องอร่อยสำหรับประชาชนหมู่มากจึงจะขายได้ ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็เอาใบมาทำเป็นผงนัว แม้แต่ซอสตราเด็กสมบูรณ์ ก็กระโดดเข้ามา แต่ประกาศนี้ห้ามใช้ช่อดอก การทำสิ่งเหล่านี้ต้องอิงกฎกระทรวงให้แม่น วันนี้ทำถูกต้อง ต่อไปไม่ต้องกลัวอะไร” รศ.ดร.วีรชัยเน้นย้ำ
จากนั้น รศ.ดร.วีรชัยกล่าวถึง ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุด ฉบับที่ 429 พ.ศ.2564 ซึ่งเป็นไปเพื่อการปลดสาร CBD เพียวๆ ตอนนี้จึงอิสระเต็มที่ แต่ถ้า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่อยู่ในสภาผ่าน จะมีอำนาจเต็มที่สามารถทำลายไร่กัญชาที่ปลูกผิดกฎหมายได้
“ฉบับที่ 429 นี้ จะเน้นสารสกัด CBD ที่ได้มาอย่างถูกกฎหมาย จากโรงงานสกัดที่ใบอนุญาต ไม่ต้องขออนุญาตขึ้น อย. ในการผสมนู่นนี่ ถูกกฎหมาย เหมือนอย่างน้ำตาลทรายขาว ซึ่งโรงงานจะต้องมีการวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ของ CBD ต้องให้ต่ำกว่า 0.15 เปอร์เซ็นต์ สำหรับใส่อาหาร ฉะนั้น โรงงานสกัดที่มีเซียนเท่านั้นจึงจะทำได้แบบครบลูป
โดยโรงงานของกลุ่ม WP science company Limited ที่สามพราน ทำได้หมด มาตรฐาน ต้องได้ GHPs/HACCP ต้องได้รับใบนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะผ่าน อย. ยาก” รศ.ดร.วีรชัยกล่าว และว่า
“ฉบับที่ 429 ไฮไลต์ที่จะเอา CBD ไปใช้ในอาหาร ต้องควบคุมน้ำหนักไม่เกิน 0.2 และถ้าจะถ้าใส่อาหารต้องต่ำกว่านั้น 0.15 เปอร์เซ็นต์ ใส่ในอะไรได้บ้าง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เฉพาะชนิดเม็ด แคปซูล และของเหลวพร้อมบริโภค เครื่องดื่มแต่งกลิ่นอัดแก๊ส”
รศ.ดร.วีรชัยกล่าวย้ำว่า แต่ชา กาแฟ ใส่ CBD ไม่ได้ ลบโปรเจ็กต์นี้ไปเลย เพราะกฎหมายไม่อนุญาต ทำได้ง่ายๆ ด้วยการขึ้นทะเบียนเป็นโอท็อป ตัวอย่างผลิตเหล่านี้มีให้เห็นแล้ว เช่น น้ำดื่ม ผสม CBD, Sparkling CBD water Lemon แนะนำให้ปลูกสายพันธุ์ ACBD เพราะ THC ต่ำ และ CBD สูง
“เราจะอยู่ในตำแหน่งไหนของห่วงโซ่นี้? บางคนกระโดดมาทำปลายน้ำ ในต่างประเทศใส่ 25 มิลลิกรัม (ในเครื่องดื่ม) เพราะมีงานวิจัยว่า ต้องทานอย่างต่ำวันละ 25 มิลลิกรัม จึงจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ กินเยอะได้ไม่เมา ไม่ใส่สารเสพติด กินเยอะแค่เปลือง แต่สารจะออกฤทธิ์ดีช่วง 25-75 มิลิกรัม ตามเอกสารทางการแพทย์” รศ.ดร.วีรชัยกล่าว
พร้อมแนะนำผู้ประกอบการอีกด้วยว่า อาจจะใช้วิธี “ปรับกรด” ให้สินค้าเก็บในชั้นวางได้นานขึ้น (Shelf life) ทั้งยังยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ WPS น้ำโซจู ซึ่งภายในระยะเวลา 6-7 เดือนมีกำไร 86 ล้านบาท ขึ้นทะเบียนโอท็อป ปัจจุบันขึ้น อย.เรียบร้อย
“อยู่ที่ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ที่ขายดีกระฉูด เพราะคนไทยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมเกาหลี อะไรที่เป็นเกาหลีจะขายได้ แพคเกจจิ้งจึงดีไซน์แบบเกาหลี ทำรายได้มหาศาล จากวัยรุ่น 2 คน ทำงานประจำฝ่ายมาร์เก็ตติ้งบริษัทขายประกัน ปัจจุบันมีรายได้เกือบ 100 ล้าน ด้วยกัญชง การจะทำให้มีประสิทธิภาพที่ดี ต้องเป็น CBD ที่ละลายน้ำได้ เทคโนโลยีละลายน้ำ Water-Solution CBD ถูกใช้มาทั่วโลก” รศ.ดร.วีรชัยเผย
รศ.ดร.วีรชัยกล่าวต่อว่า เรากำลังเริ่ม แล้วบ้านเราเป็นเมืองร้อน ชอบกินเครื่องดื่ม ตลาดไทยไม่แพ้สหรัฐอเมริกา ดังนั้น ปริมาณการใช้ CBD ตั้งแต่ปีนี้ไป จะมากขึ้นเรื่อยๆ ต้นน้ำก็ต้องการแหล่งปลูกดีๆ ที่จะนำส่งเข้าโรงงาน กฎหมายไทยกับอเมริกา เหมือนกันแทบทุกอย่าง ต่อไปนี้ CBD จะอยู่ในของกินทุกประเภท
“นึกถึง CBD ให้นึกถึงกาแฟ มีคาเฟอีน น้ำโค้ก ช็อกโกแลต เนื้อวัว ก็มีคาเฟอีน คาเฟอีนอยู่ในอาหารแทบทุกประเภท การบริโภคสูงขึ้นจนผลิตคาเฟอีนไม่ทัน จึงต้องสังเคราะห์คาเฟอีนมาขาย อย่างพวกเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นคาเฟอีนสังเคราะห์ แต่กฎหมายไทยระบุชัดว่า ห้ามให้ CBD สังเคราะห์ ห้ามนำเข้า CBD จากต่างประเทศ ต้องชมคุณอนุทิน (ชาญวีรกูล) มีกลยุทธ์บีบให้คนไทยทำกันเอง ไม่ใช่เพื่อนายทุน แต่เพื่อทุกคน เพื่อเกษตรกรด้วย” รศ.ดร.วีรชัยระบุ
รศ.ดร.วีรชัยกล่าวเสริมว่า ของกินส่วนใหญ่ จะใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย มูลค่าของตลาดสหรัฐอเมริกา มูลค่า 278 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 30,000 ล้านบาท แต่เครื่องดื่มไทย มูลค่ากว่า 50,000 ล้าน เพราะไทยอยู่ในเขตร้อน อีกอย่างที่ขายดีมากหากใครจะทำ คือ “น้ำมัน CBD” ทำได้ง่าย หยดทุกวัน 5 มิลิกรัม หยดใต้ลิ้นแล้วดื่มน้ำ
โดยเอาน้ำมันมะกอก มาละลาย ในกัญชาขนาด 10 มิลิลิกรัม จะได้ CBD Oil 1,000 มิลลิกรัม 1 หยด มี 5 มิลลิกรัม แต่งสีแต่งกลิ่นได้ เพราะถูกต้องตามกฎหมาย กิน 15 วันไปตรวจ ลดน้ำตาลในเลือดได้ คืออิทธิฤทธิของ CBD ต้นทุนตกขวดละ 300-400 บาท ใช้ดี คนก็จะมาซื้อซ้ำ” รศ.ดร.วีรชัยกล่าว
พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ของ ม.เกษตรศาสตร์ เป็น CBD จากน้ำมันที่บรรจุใส่ซอฟต์เจล รวมถึง KU Hemp full spectrum Oil ที่ช่วยให้หลับลึกมาก เพียง 15 วันรู้เรื่อง ลดระดับน้ำตาลในเลือด ไขมัน และปรับคุณภาพการนอน
รศ.ดร.วีรชัยกล่าวต่อว่า “กลุ่มเครื่องสำอาง” ก็มีกฎกระทรวงกำกับเช่นกัน
“เครื่องสำอางขึ้น อย.ได้ มูลค่าส่งออก 200,000 ล้านบาท ผมตกใจ คนไทยเราใช้เครื่องสำอางเยอะขนาดนี้เชียวหรือ อย่างมาม่า กับยาดม อะไรมูลค่าสูงกว่ากัน? สรุป ‘ยาดม’ รวยนิ่มๆ รวยเงียบๆ ยิ่งเอาไปใส่เทอร์พีนกัญชา ยิ่งเพิ่มมูลค่าไปอีก แต่โชคไม่ดีที่ถูกย้ายไปควบคุมตามมาตรฐานยา”
“การใช้กัญชง กัญชาในเครื่องสำอาง ใช้น้ำมันส่วนของกัญชาและกัญชงได้ CBD ใช้ได้โดยยึดกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ หวังว่า สิ่งที่บรรยายวันนี้จะเป็นประโยชน์ไม่น้อย ผมได้อัดคลิปไว้ และจะนำไปเผยแพร่ ผ่านเพจของ สสจ. จังหวัดบุรีรัมย์”
“ขอบคุณรัฐบาลที่ทำให้กัญชา กัญชงมีมูลค่าสูง คีย์คือ ‘กฎหมายต้องเปิดก่อน’ 1.มีความฝัน (Dream) 2.เราจะเอาอะไร (Aim) 3. มีแหล่งผลิต 4.มีตลาด และ 5.ต้องมีความรู้” รศ.ดร.วีรชัยกล่าวทิ้งท้าย
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ