เปิดประวัติ! ใครเป็นใคร ในบอร์ดกรุงเทพธนาคม มือ เคลียร์ปมสัญญารถไฟฟ้า
จากกรณีที่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. โดยมีวาระสำคัญคือการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ (บอร์ด) วาระ 4 ปี
ซึ่งที่ประชุมได้มีการอนุมัติรายชื่อบอร์ดใหม่รวม 7 คน ประกอบด้วย
1.ดร. ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ (ประธานบอร์ด)
2.ดร.ประแสง มงคลศิริ อดีตอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี สังกัดพรรคไทยรักไทย ปัจจุบันประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว อาจารย์คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
3.ดร.กมลชัย รัตนสกาววงศ์ กรรมการผู้ทรวงคุณวุฒิ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, กรรมการกฤษฎีกา อาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย หัวหน้าหมวดกฎหมายมหาชน ปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4.นายชัยวัฒน์ คลังวิจิตร รองกรรมการผู้อำนวยการสายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัทกรุงเทพธนาคม
5.นางทิพยสุดา ถาวรามร กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ, บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และอดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
6.นายธรรดร มลิทอง ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย
7.นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ สำหรับบริษัท กรุงเทพธนาคมฯ มีความเกี่ยวข้องกับ กทม.หลายเรื่อง ทั้งแหล่งเงินทุนที่มาจากรายได้ซึ่ง กทม. ว่าจ้างให้ทำโครงการกว่า 20 โครงการ ด้วยวงเงินรวมกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท รวมถึงมาจากเงินอุดหนุนจาก กทม. เมื่อผู้ว่าฯ กทม. เห็นสมควร และโดยความเห็นชอบของสภากรุงเทพมหานคร การถือหุ้นของ กทม. ในกรุงเทพธนาคม ถึงจำนวน 49,994,000 บาท คิดเป็น 99.98% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด รวมถึงที่มาของคณะกรรมการบริษัทซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยผู้ว่าฯ กทม. ทั้งนี้ บอร์ดชุดใหม่มีภารกิจสำคัญ คือ จะเข้ามาดูแลเกี่ยวกับสัญญาโครงการต่างๆ รวมถึงประเด็นสัมปทานการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ยังคาราคาซังอยู่ในขณะนี้ ขณะเดียวกันอาจจะต้องรวมไปถึงการหารายได้เพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่างๆ ด้วย
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ