แม้ภายหลังฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะออกมาชี้แจง รวมถึงพิมรี่พาย จะพูดในไลฟ์ระหว่างขายของ ถึงบรรดาเพื่อนรัก (ลูกค้าและชาวเน็ต) จบดราม่าครั้งนี้อีกครั้ง ว่า “ยังไม่จบอีกหรือ จบเถอะ ก็ต้องตามที่ผู้จัดงานเขาออกมาออกข่าว ตามนั้นแหละ ทางสโมสรหรือว่าทางคนขายตั๋วเขาก็ต้องออกมาบอกว่า มันไม่มีตั๋วกินข้าวอยู่แล้ว ก็ถูกแล้ว ก็มันไม่มีตั๋วกินข้าวไง ก็บอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าเออ มันไม่มีตั๋วกินข้าว”
แต่ดูเหมือนดราม่าบัตรแดงเดือดครั้งนี้ไม่จะงบง่าย ๆ เสียแล้ว เมื่อวันนี้ (26 มิ.ย.) ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดังได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องดราม่าดังกล่าวว่า การกระทำของพิมรี่พายนั้น อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยระบุว่า
ขายตั๋ว + โปรกินข้าวกับนักเตะดัง
= นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งทัศนะทางข้อกฎหมายดังกล่าว สอดคล้องกับนักกฎหมายหลาย ๆ คน ก่อนหน้าเช่น ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ที่ระบุไว้ว่า
“พิมรี่พายนี่เสี่ยงจะถูกดำเนินคดีมากหากการขายบัตรที่เป็นประเด็นคนซื้อไปพบว่าไม่มีสิทธิ์ลุ้นกินข้าวกับแจ็คสัน หวัง”
รวมถึง ทนายรัชพล ศิริสาคร ที่ระบุ การขายตั๋วเป็นหมื่นใบ อาจยังไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ต้องไปดูว่ามีการทำข้อตกลงกับผู้จัดอย่างไร ส่วนเรื่องที่ตั๋วเขียนว่า ไม่ระบุที่นั่ง แล้วหากผู้ซื้อไม่สามารถใช้ได้ หรือไม่ได้ไปดินเนอร์กับศิลปินจริงตามที่ผู้จัดโพสต์ ก็จะเข้าข่ายหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน และผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ตามประมวลกฎหมายอาญา
นอกจากนี้ ประเด็นที่พิมรี่พาย มีการตอบโต้บรรดาแฟนคลับที่เข้ามาคอมเมนต์ถึงความผิดปกติจากเรื่องนี้ ด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรงว่า อาจเข้าข่ายผิดข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา มีโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 10,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความได้
ข่าวจาก : nationtv
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ