เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งที่2/2565 ที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล ว่า
เป็นการประชุมเพื่อพัฒนาแผนความมั่นคง5 ปี (2565-2570 ) ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามแผน นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือเรื่องความมั่นคงเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมืองที่มีประมาณ 6 ล้านคนทั่วประเทศ ดังนั้นรัฐบาลให้ความสำคัญที่จะต้องเข้าไปดูแลเพื่อให้เกิดสันติสุขและการอยู่ร่วมกันไม่ว่าชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่สูง และ พื้นที่ราบ หรือในพื้นที่ติดทะเล ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม รัฐบาลก็ต้องเข้าไปจัดการดูแลให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ในแผนความมั่นคงแห่งชาติประกอบไปด้วย 13 เรื่อง หนึ่งในนั้นจะมีเรื่องความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ความมั่นคงปลอดภัยไฟเบอร์ ความมั่นคงชายแดน
- ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการทำงานร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากได้ลงนามความร่วมมือกันแล้ว เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การจะจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เด็ดขาดทำได้ยาก เพราะมิจฉาชีพ จะไปตั้งสำนักงานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เราได้พยายามบล็อก ตัด และเตือน เพราะเราก็พอรู้เส้นทางการเข้ามาทางอินเตอร์เน็ต แต่ปัญหาคือเมื่อปิดช่องทางหนึ่ง เขาก็เปิดช่องทางอื่นเข้ามาอีก เพราะประเทศไทยเป็นระบบการให้สิทธิเสรีภาพในการใช้งาน ทำให้การบล็อกไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพ
ดังนั้นที่สำคัญคือ จะต้องไปจัดการประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเรารู้ว่ามิจฉาชีพทำอยู่จุดใดก็ต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยดำเนินการให้ เนื่องจากเราเข้าไปจัดการเองไม่ได้ เพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นการลงนามในความร่วมมือและมีบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยกันหาข้อมูล และประสานให้เจ้าที่ประเทศเพื่อนบ้านเข้าไปดำเนินการในจุดที่มิจฉาชีพอยู่ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล
“เมื่อเราปิดตรงนี้ มันก็ไปเปิดที่อื่นก็ไม่รู้ว่ามันจะย้ายไปประเทศอื่นหรือไม่ วันนี้โลกไร้พรมแดน ตั้งทำงานในที่ใหม่เอาก็ได้ ดังนั้นจะให้หมดร้อยเปอร์เซ็นต์คงยาก เราปิดตรงนี้เขาก็ไปเปิดที่ใหม่ นี่คือปัญหาของระบบอินเตอร์เน็ต ที่เป็นประระบบเปิดให้สิทธิเสรีภาพในการใช้ และ ที่สำคัญสื่อมวลชนกับผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันให้ความรู้และแจ้งเตือนประชาชนเพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน ขณะนี้กระทรวงและกสทช.ได้ประสานงานกันหากพบเบอร์ที่มาจากต่างประเทศ เบอร์ + 697 ซึ่งเป็นเลขที่โทรมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็อย่าไปรับ เขาโทรมาหลอก อย่าไปเสียเวลารับ ซึ่งเรื่องผู้สูงอายุพึ่งคุ้นเคยกับการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นปัญหาที่ผมเป็นห่วง
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ