(16 กรกฎาคม 2565) ช่อง 3 รายงานว่า นางสาวกัญญาณี (สงวนนามสกุล) วัย 21 ปี ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนทั้งน้ำตา เพราะได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่มีเงินมาเลี้ยงดูลูกวัย 1 ขวบ 7 เดือน จากการที่ถูกยืมเงินร่วม ๆ 1 ล้านบาทแล้วไม่คืน จนประสบภาวะขาดสภาพคล่อง มีทั้งหนี้บ้านหนี้รถ จากคนที่เคยมีเงินเก็บ กลายเป็นบ้านยายสามีจะถูกยึด
ทั้งนี้ นางสาวกัญญาณี นำหลักฐานคือข้อความแชตที่คุยกับผู้หญิง 4 คนที่มายืมเงิน คือ นางสาวเอิร์น, นางสาวมี่, นางสาวแพน, นางสาวมุก และนางรุ้ง บวกกับสลิปโอนเงินทั้งหมดตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ปัจจุบันติดต่อกันไม่ได้
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น มาจากเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ประมาณเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2564 นางสาวมี่ เป็นเพื่อนกับพี่สาวของตนเอง มาขอยืมเงินทางพี่สาวบอกว่าจะไปปิดโพยหวย ซึ่งพี่สาวก็บอกว่า ไว้ใจได้ ตนจึงให้ยืม และไม่มีการเก็บดอกเบี้ย เหมือนคนรู้จักยืมเงินกันธรรมดา ไม่มีสัญญา การยืมเงินมีหลายครั้งตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน ช่วงแรกนางสาวมี่ก็จ่ายคืน พอรอบสุดท้ายช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2564 ทางนั้นยืมเงินก้อนไป 4 แสนบาท พอได้เงินปิดเฟซบุ๊กหนีทันที ตอนนี้ทราบเพียงว่าเป็นเจ้ามือหวยใน จ.ขอนแก่น
โดนเชิด 4 แสนไม่พอ มีมาอีก 3 คน
หลังจากนั้นมีคนใหม่อีก 3 คน คือ นางสาวแพนกับนางสาวมุก ซึ่งเป็นเพื่อนตนทั้งคู่ มาขอยืมเงินบอกว่า จะเอาไปร่วมลงทุนหุ้นเอากำไรกับนางรุ้ง ซึ่งตนก็ให้ยืมไป ไม่ได้ถามเรื่องการลงทุนมากนักเพราะไม่ได้สนใจ ส่วนสาเหตุที่ให้ยืมคือ นางสาวแพนยืมแล้วจ่ายคืนครบตลอด
นางสาวแพนมาขอยืมเงินตนอีกครั้ง 2 แสนบาท ในตอนแรกตนไม่ให้ เพราะเป็นเงินที่เตรียมไว้สร้างบ้าน สร้างครอบครัว และมีลูกชายเพิ่งคลอด แต่ทางนั้นก็ตามตื๊อ ขอร้องต่าง ๆ นานา จนตนใจอ่อน ขอให้รอบนี้เป็นรอบสุดท้าย จึงให้ยืมไป แล้วตนก็เริ่มมีปัญหากับสามี
ขอยืม 3 แสนเพื่อปิดยอด เอาเงินทั้งหมดคืน สุดท้ายเสียหมด
หลังจากนั้น ตนก็มีปัญหาคาบเกี่ยวช่วงนางสาวมี่เบี้ยวเงิน 4 แสน ทางนางสาวมุกกับนางสาวแพนก็มาขอยืมเงินเพิ่มอีกคนละ 1.5 แสนบาท รวม 3 แสนบาท อ้างว่านำไปให้นางรุ้งเพราะต้องการเงินไปปิดยอดที่ลงหุ้นกันไว้ หากไม่ได้เงินก้อนนี้ เงิน 2 แสนที่ยืมไปก่อนหน้าจะไม่ได้คืน ด้วยความที่ตนไม่มีอะไรจะเสียจึงให้ไป เพราะหวังจะได้คืนทั้งหมด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้จ่ายคืนมาให้
เท่านั้นไม่พอ นางรุ้งที่ตนรู้จักผ่านนางสาวแพน เพราะแนะนำว่า เป็นคนที่กว้างขวาง สามารถตามทวงเงินจากนางสาวมี่ได้ คน ๆ นี้ มาขอยืมเงินตนเองภายหลังที่นางสาวแพนกับนางสาวมุกยืมเงินไป โดยขอยืมจำนวน 2 แสนบาท ถ้าหากไม่ได้เงินก้อนนี้ก็จะไม่มีเงินคืนนางสาวแพนและนางสาวมุก เท่ากับว่า เงินก้อนนี้คือก้อนสุดท้ายของครอบครัวแล้ว ตนตัดสินใจให้เงินนางสาวรุ้งไป 205,000 บาท เพราะไม่รู้จะทำทางไหนที่จะให้ได้เงินทุกอย่างคืน
ในตอนทวงเงิน นางรุ้งก็อ้างต่าง ๆ นานาว่าจะขายรถบ้าง เดี๋ยวโอนให้ 1 แสน แต่ความจริงได้เพียง 5,000 บาท เท่ากับว่า หนี้ของนางสาวรุ้งเหลือเพียง 1.5 แสนบาทเท่านั้น
ไปแจ้งความก็ไม่ได้ผล ตำรวจให้ไปฟ้องศาล บ้านจะถูกยึด
หลังจากที่ตนเชื่อว่าทุกคนจะไม่สามารถหาเงินมาจายตนเองได้ เพราะมีข้อความทิ้งท้ายจากนางสาวมี่ว่า โดนโกงจากการลงบัญชีหวย พร้อมทยอยคืน แล้วก็เงียบหายไป ตนจึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจกลับบอกว่า แจ้งความไม่ได้ เพราะเป็นคดีแพ่ง ต้องไปฟ้องร้องที่ศาล เจอแบบนี้ตนถึงทางตัน ไม่มีเงินไปฟ้องร้องใคร ต้องหาเงินมาชดใหนี้
ส่วนตอนนี้้บ้านยายสามีจะถูกยึด เพราะคนในครอบครัวป่วยจิตเวช แอบเอาที่ดินไปจำนองต้องหาเงินมาจ่าย ตอนนี้ขาดส่งไป 3 เดือน กลัวถูกยึดจนยายไม่มีที่อยู่มาก
สรุปเหตุการณ์ยืมเงินแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย
เรื่องนี้มีตัวละคร 4 คน คนแรกคือนางสาวมี่เป็นคนที่มายืมเงินแบบโดด ๆ คนเดียว ส่วนอีก 3 คนที่เหลือคือ นางสาวแพน, นางสาวมุก และนางรุ้ง เป็นคนอีกชุดที่มายืมเงินแล้วไม่คืน อ้างเอาไปร่วมลงทุน
1. นางสาวมี่ที่เป็นเพื่อนพี่สาวมาขอยืมเงิน พี่สาวยืนยันว่าไว้ใจได้จึงให้ยืม ยืมไปยืมมาพอได้ก้อนสุดท้าย 4 แสนจึงเงียบหาย
2. จังหวะนั้นมีนางสาวแพนกับนางสาวมุกที่เป็นเพื่อน มาขอยืมเงินไปลงทุนกับนางรุ้ง ก็ให้ยืมไปเพราะประวัติดี จากนั้นนางสาวแพนมาขอยืมเพิ่มอีก 2 แสนบาท พยายามปฏิเสธแต่ก็ใจอ่อนให้ไป
3. นางสาวแพนกับนางสาวมุก มาขอยืมอีกคนละ 1.5 แสน รวม 3 แสน อ้างว่า ถ้าไม่ให้ยืมจะปิดยอดไม่ได้ และเงิน 2 แสนที่เคยเอาไปก็จะไม่ได้คืนด้วย จึงยอมให้ยืม แล้วก็เชิดเงินหนีหาย
4. นางสาวรุ้ง คนที่ร่วมลงทุน มาขอยืมอีก 205,000 บาท เพื่อเอาเงินไปปิดยอด แล้วเอาเงินไปใช้คืนนางสาวแพนและนางสาวมุก ซึ่งนางสาวรุ้งก็ทยอยใช้คืนจนหนี้เหลือ 1.5 แสนบาท
สรุปเงินที่เสียไปจากการถูกโกงแบบที่รวมนางสาวรุ้งคืนเงินมาบางส่วนแล้ว ขั้นต่ำอยู่ที่ 1,050,000 บาท
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ