ตร.แนะวิธีเอาชีวิตรอด ในเหตุกราดยิงตามหลักสากล เอฟบีไอ





ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกตร. กล่าวว่า ตามที่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าเหตุกราดยิง หรือที่เรียกภาษาอังกฤษว่า Active Shooter นั้นไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว เช่นเหตุกราดยิง ที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 50 และเหตุกราดยิงที่ห้าง เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 63 เป็นต้น อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ยิงปะทะต่าง ๆ อีกด้วย

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ เอฟบีไอ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง โดยหลักการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

“หนี – Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้
– เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย
– เมื่อเกิดเหตุต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี
– ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น
– ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้

“ซ่อน – Hide” เมื่อไม่สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ ให้หาสถานที่ปลอดภัยเพื่อซ่อนตัว
– ล็อกประตูและหาสิ่งที่ของมาใช้กีดขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้มาถึงตัว
– ซ่อนให้พ้นสายตาโดยหลบหลังสิ่งของขนาดใหญ่และแข็งแรง เช่น โต๊ะ กำแพง เป็นต้น
– ปิดไฟในห้อง และปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ
– อยู่ให้เงียบที่สุด ไม่พูดคุยหรือใช้เสียง

“สู้ – Fight” เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อไม่สามารถหนีหรือซ่อนตัวจากคนร้ายได้ และคนร้ายกำลังจะเข้ามาถึงตัวหรือโจมตีมาที่ตน
– ร่วมกันสู้สุดกำลัง เพื่อให้มีโอกาสรอด
– ใช้การซุ่มโจมตีโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัว เพื่อหยุดยั้งคนร้าย
– ใช้สิ่งของทุกอย่างที่หาได้มาเป็นอาวุธ
– ใช้ทุกวิธีการที่นึกได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนพบเห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์กราดยิง หรือเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธปืนต่าง ๆ สามารถแจ้งตำรวจเพื่อให้ตำรวจเดินทางเข้าไประงับเหตุได้ ทั้งนี้การโทรศัพท์แจ้งเหตุที่หมายเลข 191 ท่านจะต้องมั่นใจว่าในขณะที่ทำการโทร ตนเองอยู่นอกระยะการมองเห็นหรือได้ยินของคนร้าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายพุ่งเป้าในการโจมตีมาที่ตน

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: