เศรษฐีพันล้าน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ปลื้มชัชชาติให้ใจ ปชช.





14 สิงหาคม เวลา 11.00 น. ที่เจริญนคร ซอย 10 เขตคลองสาน สมาคมตระกูลโอวยางแห่งประเทศไทย โดย นายประทีป วัชรโชคเกษม นายกสมาคมตระกูลโอวหยางแห่งประเทศไทย และประธานบริษัท แสงประทีปออโต้ซีท จำกัด จัดกิจกรรมแจกข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 2,000 ชุด ให้แก่ผู้ยากไร้ ร่วมกับ นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม., ศ.พิเศษ ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ และนางสาวอารียา เพ็งประเสริฐ ผอ.เขตคลองสาน โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานอาสาและเจ้าหน้าที่ กทม.มาบริการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับการแจกข้าวสารเป็นจำนวนมาก

นายประทีป ให้สัมภาษณ์ ’มติชน’ ในฐานะอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ถึงการทำงานของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ว่า คะแนนเต็ม 100 ให้ 95 เพราะว่าเป็นคนทำงานติดดินและให้ใจประชาชน นายชัชชาติทำดีที่สุดแล้วจากเท่าที่ติดตาม แต่เป็นห่วงเรื่องการออกกำลังกายในกรุงเทพฯ ซึ่งมีมลพิษเยอะ อยากให้ถนอมตัว

“ระยะเวลาการทำงานก็ค่อยๆ ผ่อนลงหน่อย คือเวลาออกสตาร์ตเหยียบ 180 แล้วต้องเหยียบไปเรื่อยๆ เวลา 4 ปีกลัวเขาจะรับไม่ไหว อยากให้ผ่อนลงหน่อย และทำเป็นรูปธรรมขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นในระยะยาวเราอาจจะเสียคนดีไป เนื่องจากสังคมไทย ถ้าทำดีมากๆ หากพลาดพลั้งแล้วจะเสีย ผมอยากจะรักษาคนดี คนเก่ง คนที่มีความสำคัญที่จะทำให้เป็นแบบอย่างของนักการเมืองไทยของสังคมไทยเอาไว้

อาจารย์ชัชชาติเป็นแบบอย่างที่ดี อยากให้ถนอมตัวไว้นิดหนึ่ง เขาเป็นคนติดดิน เข้าหาไม่ยาก เป็นคนมีจิตใจกว้าง ไม่มีจิตใจคับแคบ อิจฉาริษยาหรือทำร้ายใคร เป็นจิตใจเพื่อสังคม เป็นโชคดีของคนกรุงเทพฯแต่ปัญหาคนกรุงเทพฯนั้นเยอะ ทำคนเดียวไม่ไหว และพื้นที่กว้างต้องใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายเยอะ “ นายประทีปกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องปัญหาการใช้กัญชาในปัจจุบัน นายประทีปกล่าวว่า กัญชามีส่วนดีและส่วนเสีย เชื่อว่าคนไทยแยกแยะได้อยู่ สามารถดูแลและใช้วิจารณญาณได้พอสมควร เพราะยาเสพติดบางประเภทมีคนใช้อยู่แล้ว ส่วนมากคนที่ติดจะเป็นคนที่ติดยาอย่างอื่นมาก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายในอดีตที่เคยเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ที่อยากให้นายชัชชาติสานต่อ นายประทีปกล่าวว่า อยากให้ดูแลเรื่องรถเมล์ และศูนย์เด็กเล็ก

“อยากให้รถเมล์เป็นแบบติดแอร์ เพื่อไม่ให้คนสูดดมควันพิษ อยากให้ติดเครื่องฟอกอากาศในเขตชั้นใน เพื่อให้ฝุ่นมลพิษน้อยลง และอยากให้ตั้งศูนย์เด็กเล็กให้เด็กที่เพิ่งคลอด เพื่อช่วยเหลือประชาชนกรุงเทพฯ ที่เป็นระดับคนทำงานเพราะการมีลูกหนึ่งคน บางครั้งต้องดูแลทั้งสามีภรรยาในค่าใช้จ่ายที่สูง ให้นำลูกมาฝากที่เขตที่ศูนย์ ตอนเย็นก็มารับลูกกลับบ้าน หรือถ้าพ่อแม่ไปต่างจังหวัดก็สามารถมาฝากได้ เพื่อที่จะไม่ต้องหยุดงานทั้งคู่และลดค่าใช้จ่ายไปด้วย เป็นการช่วยเหลือให้คนมีบุตร เพราะประชากรเกิดน้อยลง คนไม่สามารถมีบุตรได้เพราะเป็นภาระ ถ้ามีตรงนี้เขาก็จะกล้ามีบุตรให้ดูแลเขาในบั้นปลายชีวิต และเป็นกำลังของชาติ ความจริงแล้วควรเป็นรัฐบาลที่จะต้องทำตรงนี้” นายประทีปกล่าว

นายประทีปกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ต้องยกระดับชุมชนให้ชุมชนมีมาตรฐาน เช่น ชุมชนนี้ต้องไม่มีคนตกงาน มีรายได้เท่านี้ เขตต้องพัฒนาแก้ไขน้ำท่วมขัง อย่าปล่อยให้เป็นที่เสื่อมโทรมหรือเป็นเพียงชุมชนของคนมาหาเสียงและทำบุญสร้างภาพ

“เราต้องยกระดับเขาขึ้นมา อย่างเช่นเขตคลองเตย ไม่ใช่ให้เป็นชุมชนให้คนมาสร้างภาพว่าตัวเองใจบุญมาช่วยคนคลองเตยเท่านั้น จะทิ้งเขาไว้ทำไมตั้ง 20-30 ปี ต้องยกระดับให้เจริญ ทำคลองเตยให้เป็นมาตรฐานไปเลย พัฒนาให้หนทางสะดวก” นายประทีปกล่าว

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: