17 สิงหาคม 2565 ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความเชิญชวนลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เพื่อหนุนร่างกฎหมาย ล้างหนี้ กยศ. ต่อรัฐสภา โดยให้รัฐบาลมีกลไกเข้ามาเป็นลูกหนี้แทนผู้กู้หลังสำเร็จการศึกษา 2 ปี พร้อมแนะช่องทางติดตามได้ที่ ศูนย์วิจัยรัฐสวัสดิการ
จากข้อมูลของ ศูนย์วิจัยรัฐสวัสดิการ อธิบายว่า แม้นับจากปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลจะกำหนดให้มีการเรียนฟรีขยายไปถึง 15 ปี คือเกินจากข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 3 ปี ซึ่งเป็นนโยบายที่ดี ทว่ามันเป็นเพียงนโยบายไม่ได้ถูกทำให้กำหนดเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 แม้กระทั่งการเรียนฟรี 12 ปี ก็ไม่ใช่สิทธิของประชาชนอีกต่อไป แต่กลับถูกกำหนดไว้ให้เป็นหน้าที่ของรัฐแทน
ในขณะที่มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็ก ประเทศใหญ่ ประเทศที่มีประชากรมหาศาล ประเทศที่ร่ำรวย และประเทศที่ดูยากจน ได้ทำให้ระบบการจัดการการศึกษาของพวกเขาก้าวหน้าไปกว่าสู่การเรียนฟรีถึงระดับอุดมศึกษา ทว่าการศึกษาไทย ก็ยังคงติดหล่มเรียนฟรี 12 ปี และยังไม่เกิน 15 ปี ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา
ถึงเวลาที่ประชาชนต้องดันเพดานการเรียนฟรีครั้งใหญ่ ทำให้การเรียนฟรีเป็นสิทธิอีกครั้งและต้องเป็นการขยายกรอบการเรียนฟรีไปจนถึงระดับอุดมศึกษา เราเรียนสิ่งนี้ง่าย ๆ “เรียนฟรีถ้วนหน้า” ช่วยกันดันให้ประเทศหลุดออกจากการติดหล่มเรียนฟรี 12 ปี เสียที เพื่อที่ทุกคนที่มีความประสงค์ที่จะศึกษาเล่าเรียนได้เข้าถึงการศึกษาโดยไม่มีข้อจำกัดด้านทุนทรัพย์มาเป็นอุปสรรค #เรียนฟรีถ้วนหน้า #ยกเลิกหนี้กยศ. #เรียนฟรีมีเงินเดือน
แฮชแท็ก #ยกเลิกหนี้กยศ. ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ กระแสสังคมวิจารณ์หลายมุม
ภายหลังประเด็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าได้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย โดยมีผู้คนแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พบว่ามีจำนวนไม่น้อย ยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว โดยไม่สนับสนุนให้ล้างหนี้คนที่กู้เงินไปแล้ว แต่ก็ไม่ปิดกั้นหากจะผลักดันให้มีการเรียนฟรีถึงมหาวิทยาลัยได้ในนักเรียนรุ่นต่อ ๆ ไป
นอกจากนี้บางรายที่กู้ยืม กยศ. ระบุทำนองว่าตนเองกู้เอง และยินดีที่จะจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ถ้าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ก็อยากให้ยกเลิกกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ชั่วโมงกิจกรรม เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนแต่อย่างใด
ส่องนโยบายช่วยเหลือผู้กู้ยืม กยศ.
ขณะที่ข้อมูลจาก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และเพจกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พบว่าปัจจุบันมีนโยบายช่วยเหลือผู้กู้ยืม เบื้องต้นคือ ขยายเวลามาตรการลดหย่อนหนี้จากเดิม 30 มิถุนายน 2565 เป็นสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565 พร้อมมีมาตรการลดหย่อนหนี้ ประกอบด้วย
1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
2. ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
3. ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้
- 3.1 ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา
- 3.2 ผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ studentloan.or.th โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
4. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)
5. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ