23 ส.ค.65 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณี สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพบทสนทนา และข้อความตัดพ้อ หลังมีเรื่องราวกระทบกระทั่งกับลูกค้า จากการที่ตนทำอาชีพพนักงานส่งอาหารค่ายหนึ่ง แต่ต้องเจอเรื่องดราม่า เมื่อเจอลูกค้าสั่งอาหาร แต่เจ้าตัวไม่ยอมขึ้นไปส่งอาหารถึงห้องผ่าตัดภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จนทำให้ถูกยกเลิกออเดอร์และเรื่องบานปลายถึงขั้นถูกสั่งปิดระบบ ซึ่งหมายถึงต้องตกงาน ไม่สามารถรับงานได้อีกต่อไป
ขณะที่ต่อมา ทางเจ้าตัวได้นำเรื่องนี้มาโพสต์ลงโซเชียล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก จากการที่ และจากการสอบถามทางด้าน นายณัฐดนัย สินเปียง อายุ 29 ปี พนักงานส่งอาหารค่ายหนึ่ง ที่โพสต์แชทการพูดคุยระหว่างเขากับลูกค้า ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ ในสื่อสังคมออนไลน์ เล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 21 สิงหาคม ลูกค้าได้สั่งอาหารและให้ไปส่งที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงลูกค้าแจ้งให้ขึ้นไปส่งห้องผ่าตัดชั้นสอง แต่เขาแจ้งว่าไม่สะดวกขึ้นไปและขอให้ลงมารับอาหารที่จุดรับส่งด้านล่าง แต่ลูกค้ายืนยันระบุว่า “ลงไปไม่ได้ค่ะ ผ่าตัดอยู่” ก่อนที่จะยกเลิกออเดอร์ไปในที่สุดและทำให้ไรเดอร์ ต้องรับผิดชอบจ่ายเงินค่าอาหารเองเป็นเงิน 55 บาท
นายณัฐดนัย บอกว่า สาเหตุที่ไม่ต้องการขึ้นไปส่งอาหารถึงห้องผ่าตัด เพราะขณะนั้นมีฝนตกและตัวเขาก็เปียกและรองเท้าเปื้อนโคลน ประกอบกับทางบริษัทมีนโยบายไม่ให้พนักงาน เข้าไปในตัวอาคารของโรงพยาบาล คอนโดมีเนียม รวมทั้ง หอพัก และทางโรงพยาบาลก็ได้จัดจุดรับส่งอาหารไว้ที่ด้านล่างของตึกอยู่แล้ว และที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในโรงพยาบาลก็ลงมารับกันตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่าในวันนั้นใช้คำพูดที่ไม่ดี และใช้อารมณ์ในการพูดคุยกับลูกค้าจนทำให้ลูกค้าไม่พอใจยกเลิกออเดอร์
ส่วนสาเหตุที่นำไปโพสต์เพราะอยากให้ทางโรงพยาบาล ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่รับอาหารในจุดที่กำหนดไว้ และขอให้คนได้เข้าใจถึงการทำงานของพนักงานส่งอาหาร แต่ปรากฏว่าลูกค้าคนดังกล่าวไปเห็นเข้าและร้องเรียนไปถึงบริษัท จนทำให้ทางบริษัทแจ้งหลับมาให้ลบโพสพร้อมหักคะแนน 150 คะแนน ซึ่งหมายความว่าเป็นการปิดระบบ ไม่สามารถรับงานของค่ายนี้ได้อีกต่อไป
เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเพราะทำให้ต้องขาดรายได้ไปมาก เพราะส่งอาหารค่ายนี้มานานกว่า 7 เดือน มีรายได้วันละกว่า 1 พันบาท ถือเป็นรายได้หลัก เมื่อรายได้ส่วนนี้หายไปก็ลำบาก เพราะต้องเลี้ยงลูกที่ยังอยู่ในวัยอนุบาล เรื่องที่เกิดขึ้นนำมาเปิดเผย เพราะอยากให้สังคมเห็นใจพนักงานส่งอาหารให้มากขึ้น
ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจที่โรงพยาบาลดังกล่าว พบว่าทางโรงพยาบาลได้กำหนดจุดรับส่งอาหารไว้ด้านล่างของตึกหลายตึก มีการติดป้ายไว้ให้เห็นชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ให้ลงมารับอาหารที่จุดรับส่ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยพบว่าตลอดทั้งวันมีไรเดอร์เข้าไปส่งอาหาร และมีเจ้าหน้าที่ลงมารับกันตามปกติ
ขณะที่พนักงานส่งอาหารคนหนึ่ง บอกว่า มาส่งอาหารที่โรงพยาบาลนี้หลายครั้ง ลูกค้าลงมารับที่จุดรับส่ง แต่ก็มีบางคนที่บอกว่าติดเคสผ่าตัด ขอให้ขึ้นไปส่งในตึก ซึ่งบางครั้งก็ต้องยอมขึ้นไปเพื่อจะได้จบงาน ไปรับงานอื่นต่อ ทั้งที่ความจริงแล้วในการอบรมของบริษัท ก็บอกไว้ว่าไม่อนุญาตให้เข้าไปในอาคารโรงบาล และส่วนตัวก็ไม่อยากขึ้นไปด้วยเช่นกัน เพราะมีคนเยอะและเสี่ยงติดโควิด-19
ข่าวจาก : chiangmainews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ