แท็กซี่ขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หลังใช้อัตราเดิมมา 8 ปี ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น





นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาผลกระทบจาก การปรับอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (แท็กซี่มิเตอร์) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีข้อเรียกร้องจากผู้ขับรถแท็กซี่ นำโดยคณะกรรมการบริหารร่วม 4 สมาคม ขอเสนอให้มีการปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่เพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เนื่องจากกว่า 8 ปี (ตั้งแต่ปี 2557- 2565) ที่รถแท็กซี่ยังคงใช้อัตราค่าโดยสารเดิมอยู่ ซึ่งสวนทางกับอัตราค่าเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงคมนาคม จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นซึ่งประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางบก, สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ

เพื่อพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม และศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน โดยทีดีอาร์ไอศึกษาแล้วพบว่า ประชาชนเดินทางด้วยระยะทางที่สั้นลง เที่ยววิ่งในการให้บริการเดินรถน้อยลง ส่งผลให้ต้นทุนการเดินรถสูงขึ้น รายได้ของผู้ขับรถแท็กซี่จึงลดน้อยลง เป็นผลให้จำนวนผู้ให้บริการรถแท็กซี่ลดน้อยลง โดยมีรถแท็กซี่ที่ให้บริการจริงประมาณ 60,000 คัน/วัน จากจำนวนรถทั้งสิ้น 80,000 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของรถแท็กซี่ทั้งหมด ซึ่งรายได้ของผู้ขับรถแท็กซี่มีทิศทางสวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2557-2565 พบว่ามีอัตราเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 7

คณะทำงานฯ จึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก นำข้อมูลการศึกษาของทีดีอาร์ไอ และข้อเรียกร้องของผู้ขับรถแท็กซี่ มาเปิดรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทีดีอาร์ไอ และภาคประชาชน

รวมถึงรับฟังความคิดเห็นในภาพรวมทางเฟซบุ๊ก ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปรับอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับอัตราค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง โดยขอให้กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่สมดุลระหว่างข้อเสนอของผู้ขับรถแท็กซี่ที่เสนอสูงเกินไปกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน

รวมทั้งต้องการให้รัฐควบคุมคุณภาพการให้บริการของกลุ่มรถแท็กซี่ให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นหลัก โดยขณะนี้คณะทำงานยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราค่าบริการให้สอดคล้องตามความเห็นของทุกภาคส่วน โดยยืนยันจะมิให้มีผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่เกินกว่าดัชนีผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งจะต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการด้วย

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสาร ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน โดยไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร และกรมการขนส่งทางบกจะนำระบบตัดแต้มรถโดยสารสาธารณะมาใช้กำกับ ควบคุมคุณภาพการให้บริการอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามในระหว่างการพิจารณาคณะทำงานฯ หากประชาชนมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทางระบบ Google Form ผ่านช่องทาง Facebook กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: