6 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ โพสต์ข่าวเตือนภัยกรณี หญิงวัย 75 ปี รายหนึ่ง ลื่นล้มทำให้ศีรษะและลำตัว ติดอยู่ในช่องน้ำทิ้ง นานกว่า 10 ชั่วโมง เหตุเกิดที่ บ้านหลังหนึ่งใน ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ จะช่วยกันใช้เครื่องสกัดปูนช่วยเหลือ ซึ่งร่างของหญิงสูงวัยอยู่ในสภาพนอนขาโผล่ออกมา แต่ลำตัวและศีรษะติดอยู่ในท่อระบายน้ำพอดี เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกันอย่างทุลักทุเล ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำออกมาได้ พบว่าร่างกายอ่อนเพลียและอยู่ในสภาพอิดโรย ศีรษะบวม โดยลื่นล้มนานกว่า 10 ชั่วโมง
จากการสอบถาม น.ส.จุฑารัตน์ บัณฑิตภูวนนท์ อายุ 57 ปี ชาว ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าของร้านขายของชำเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เปิดเผยว่า ปกติแล้วที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 2 คนพี่น้องคือ 1.นางจิตติมา พี่สาว อายุ 78 ปีและ 2.น.ส.เสาวนีย์ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นคนที่ล้มศีรษะติดร่องระบายน้ำ
น.ส.จุฑารัตน์ กล่าวต่อว่า ในทุกๆวัน ทั้ง 2 คนจะพูดคุยกันเสียงดัง เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันจะได้ยินกันเป็นปกติ แต่ที่ผ่านมา 2 วันนี้ ไม่ได้ออกจากบ้านเลย เพราะปกติแล้วน.ส.เสาวนีย์ จะต้องออกไปตลาดทุกเช้า เพื่อกลับมาทำกับข้าวให้พี่สาวรับประทาน แต่เป็นที่น่าแปลกใจมีประตูนอกเปิดอ้าออก แต่ก็ไม่ได้ออกมา ตนไปยืนมองหน้าบ้าน มีแต่น.ส.จิตติมาที่กวักมือเรียก แต่ไม่ได้พูดจาอีก แต่เมื่อเข้าไปดูดีๆ คิดว่ามีอะไรผิดปกติ เพราะรู้สึกแปลกใจ จึงประสานผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางกระเบา เข้ามาช่วยเหลือ
เมื่อมาถึงเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู ผู้ใหญ่บ้านจึงต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี มาช่วยกัน เพื่อที่จะเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว แต่เมื่อเข้าไปถึงพบว่าน.ส.เสาวนีย์เกิดอุบัติเหตุ ลื่นล้มแล้วศีรษะไปติดอยู่ที่ร่องน้ำ จนศีรษะบวม และไม่มีแรงที่จะพูดจา
ด้านนายชัยยวัฒน์ เกิดสมยา อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต. บางกระเบา เปิดเผยว่า วานนี้เพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าที่บ้านเกิดเหตุนั้นไม่มีใครออกมา 2 วันแล้ว คิดว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติแน่นอน เพราะในบ้านมีน.ส.จิตติมา ซึ่งเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์และ 2.น.ส.เสาวนีย์ น้องสาว ซึ่งเป็นคนที่ลื่นล้ม อยู่กัน 2 คน
เมื่อผู้ใหญ่บ้านไปถึงก็ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีใครออกมาเปิดประตู โดยน.ส.จิตติมาได้แต่นั่งมอง ผู้ใหญ่บ้านจึงแจ้งตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากประตูถูกล็อกจากภายใน แต่เมื่อเข้าไปถึงได้สอบถามน.ส.จิตติมาก็ยังไม่ตอบ เมื่อเดินเข้าไปอีกนิดหนึ่ง จึงพบว่าน.ส.เสาวนีย์นอนล้มอยู่ในสภาพที่ศีรษะและลำตัวติดอยู่ที่ร่องน้ำ
แวบแรกที่เห็นนึกว่าเสียชีวิตแล้ว แต่เมื่อสัมผัสมือปรากฏว่าตอบรับ และกระดิกนิ้วทำให้หน่วยกู้ชีพและเจ้าหน้าที่รีบเข้าช่วยเหลือ แต่ในขณะที่ช่วยนั้นก็ไม่มีใครกล้าดึงร่างออกมา เพราะศีรษะบวมติดอัดอยู่ โดยประสานนำเครื่องสกัดปูน สว่าน เพื่อเปิดร่องน้ำใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยเหลือออกมาได้
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้บ้านหลังดังกล่าวไม่ได้อยู่กันตามลำพัง แต่น.ส.จิตติมาป่วยอัลไซเมอร์มีลูก 2 คน และลูกหลานดูแลเป็นอย่างดีแต่ทำงานอยู่ที่กทม. เป็นไปได้ว่าเวลาที่เกิดอุบัติเหตุอาจจะคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย ประกอบกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ก็ไม่สามารถตอบอะไรได้มาก
เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หากมีผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุอยู่ ขอให้ดูแลกันอย่างใกล้ชิด แต่ที่บ้านหลังนี้ก็มีลูกๆเข้าออกตลอดเวลา แต่จะต้องทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำให้คลาดเคลื่อนเวลากันเล็กน้อย
จังหวะนั้นเมื่อผู้ใหญ่ไปดูโทรศัพท์ของน.ส.เสาวนีย์ พบว่าแบตเตอรี่หมดพอดี และไม่สามารถติดต่อได้ แต่เมื่อไปชาร์จโทรศัพท์ก็ทราบถึงเบอร์ติดต่อของหลานๆ จึงโทรแจ้งว่า เข้ามาช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ