นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงยังคงพาดผ่านภาคกลาง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ถึงวันที่ 9 กันยายน จากนั้น ช่วงวันที่ 10-13 กันยายน ร่องมรสุมดังกล่าวจะเคลื่อนตัวพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น
“ยืนยันว่า ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขณะนี้ เกิดจากร่องมรสุม แต่เนื่องจากเป็นร่องมรสุมกำลังแรง ทำให้หลายพื้นมีฝนตกสะสม เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนที่เคยคาดการณ์ว่า ฤดูฝนของไทยระยะนี้มีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านอีกประมาณ 2 ลูกนั้น เป็นการคำนวณจากสถิติย้อนหลัง 30 ปีของการเกิดพายุ แต่ขณะนี้ ยังไม่พบปัจจัยที่จะก่อให้เกิดพายุดังกล่าว แม้จะก่อตัวแล้ว 1 ลูกในทะเลแปซิฟิก แต่เป็นเพียงพายุไต้ฝุ่น ไม่ใช่พายุโซนร้อน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย” นางสาวชมภารี กล่าว
นางสาวชมภารี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระดมกำลังเพื่อเข้าช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูฝนในช่วงกลางเดือนตุลาคม และปริมาณฝนรวมในช่วงฤดูฝนจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 8% ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2564
“เบื้องต้นคาดการณ์ว่า ปลายเดือนตุลาคม ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง และเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ ด้วยปริมาณฝนปัจจุบันมีจำนวนมาก ทำให้ดินอุ้มน้ำ หลายคนจึงเป็นกังวลถึงอุณหภูมิในฤดูหนาว ที่อาจจะลดลงอย่างมาก ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีการคาดการณ์อุณหภูมิโดยรวม และแจ้งให้ทราบอีกครั้ง” นางสาวชมภารี กล่าว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ