14 ก.ย. 2565 น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินผันผวนสูงขึ้น จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิมในระยะถัดไป โดยนับแต่ต้นปี เงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับแข็งค่าไปแล้วกว่า 14.6% และเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้สกุลเงินภูมิภาครวมทั้งเงินบาทปรับอ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ยังไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ โดยนับตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนต่างชาติยังมีฐานะซื้อสุทธิในสินทรัพย์ไทยประมาณ 1.6 แสนล้านบาท เป็นการซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์กว่า 1.6 แสนล้านบาท และขายสุทธิเล็กน้อยในตลาดพันธบัตร ที่ 700 ล้านบาท
นอกจากนี้ การแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐ ยังส่งผลให้มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศ (เงินสำรองฯ) ของหลายประเทศปรับลดลงเช่นกัน โดยสำหรับไทย เงินสำรองฯ ปรับลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ระดับ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งการลดลงดังกล่าว เป็นผลจากการตีมูลค่าเงินสำรองฯ ที่อยู่ในสินทรัพย์หลายสกุลเงินให้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสำคัญ
โดยเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์สกุลอื่นเมื่อตีเป็นรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าลดลง ซึ่งปกติในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนสูง จะเห็นมูลค่าเงินสำรองฯ ผันผวนสูงขึ้นตามไปด้วย และยืนยันว่าเงินทุนสำรองที่ลดลงมาก แบงก์ชาติไม่ได้ใช้เพื่อการพยุงค่าเงินบาท
อย่างไรก็ดี ไทยยังมีฐานะด้านต่างประเทศที่แข็งแกร่งจากระดับเงินสำรองฯ ที่อยู่ที่ประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 48% ของ GDP ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ (สูงเป็นอันดับที่ 12 และ 6 ของโลกตามลำดับ) และยังสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของไทยถึงเกือบ 3 เท่า
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ