12 ต.ค.65 น.ส.สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผอ.อาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำรวจพบคนไทยกินน้ำตาลมากถึง 25 ช้อนชา/วัน เกินกว่าที่องค์การอนามัย (WHO) กำหนด คือ ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา/วัน ซึ่งอาจมาจากรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนไทยกินอาหารและเครื่องดื่มที่หวานเกินเกณฑ์มาตรฐานมากขึ้นถึง 4 เท่า ส่งผลให้คนไทย 75% ป่วยและเสียชีวิตจากโรค NCDs และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
โดยข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล ปี 2562 พบว่า เฉลี่ยแต่ละวัน คนไทยดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเฉลี่ยกว่า 3 แก้ว โดยเฉพาะค่านิยมการบริโภคเครื่องดื่มชงเย็น เช่น กาแฟ ชานมไข่มุก รวมถึงน้ำแต่งรสชนิดต่างๆ ที่มีวัตถุดิบให้ความหวานแตกต่างกัน
น.ส.สุพัฒนุช กล่าวว่า แม้ตอนนี้คนในสังคมไทยเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพด้วยการสั่งหวานน้อย เวลาสั่งเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น แต่สูตรเดิมของแต่ละร้านเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 ช้อนชา แม้ปริมาณความหวานจะลดลง 50% – 75% แต่น้ำตาลที่ได้รับของบางร้าน ก็อาจจะอยู่ที่ 4–5 ช้อนชา/แก้ว ซึ่งแต่ละวันเรายังกินอาหารอื่นๆ ที่มีน้ำตาลซ่อนอยู่เต็มไปหมด ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของกินเล่น น้ำจิ้มประเภทต่างๆ ทำให้ไม่รู้ว่ากินหวานไปเท่าไร จนอาจทำให้ร่างกายรับน้ำตาลเกินเกณฑ์ได้
สสส. จึงเร่งรณรงค์สร้างกระแส สั่งหวานน้อยไม่เกิน 2 ช้อนชาต่อแก้ว สำหรับเครื่องดื่มเย็น ใช้เกณฑ์ใหม่นี้ช่วยสร้างมาตรฐานระดับความหวานน้อยใหม่ เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำตาลที่จะได้รับ ซึ่งช่วงแรกอาจยากสำหรับคนที่ติดรสชาติหวาน แต่หากทำต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ หรือ 21 วัน ร่างกายจะค่อยๆ เรียนรู้ ลิ้นจะคุ้นชินแล้วปรับการรับรสระดับความหวานตามได้ในที่สุด ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ช่วยควบคุมน้ำหนัก โดยทำงานสื่อสารรูปแบบต่างๆ ทั้งสื่อโทรทัศน์ และออนไลน์ รวมถึงสื่อนอกบ้าน ภายใต้โครงการ “ลดหวาน ลดโรค” ผ่านเกณฑ์ความหวาน 5 ระดับ กระตุ้นให้ผู้บริโภคที่สั่งเครื่องดื่มเย็นทุกครั้ง เลือก “สั่งหวานน้อยไม่เกิน 2 ช้อนชา”
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ