เผยความรู้สึกของ “แบงค์ สื่อกรรม” หลังบวชครบ 7 วัน “ปอ ทฤษฎี” ฟื้นวันที่ 7 พอดี





ยังคงอยู่ในความสนใจของคนไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับความคืบหน้าอาการป่วยของ "ปอ ทฤษฎี"  หลัง"อ. แบงค์ สื่อกรรม"  หมอดูชื่อดังประกาศลาบวช7 วัน เพื่อช่วยเหลือ "ปอ ทฤษฎี" จากอาการป่วย เพราะเขาเชื่อว่าอาการป่วยดังกล่าว เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรที่ชื่อ "คุณมัด" ที่ปอไปเบียดเบียนทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ในชาติก่อนสมัยอยุธยา จนตามมาเอาคืนในชาตินี้ ล่าสุด "แบงค์ สื่อกรรม" ได้ลาสิกขาแล้ว หลังจากครบ 7 วันตามที่อธิษฐานจิตไว้  ซึ่งวันครบกำหนด ก็เป็นวันที่ "ปอ ทฤษฎี"  ฟื้นมาพอดี งานนี้หลายคนจึงขนลุก และเชื่อว่าเป็นเพราะปาฏิหาริย์จริงๆ  ด้าน "อ. แบงค์ สื่อกรรม"  ก็ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า

 

[ads]


ตอนนี้ข่าวออนไลน์หลายสำนักได้นำเสนอข่าวไปว่า ผมบวช 7 วันครบตามกำหนดที่ลั่นวาจาไว้ แล้วคุณปอฟื้นขึ้นในวันที่7 เลย เพราะผมหรือเปล่า? บังเอิญไปหรือเปล่า?
ผมต้องชี้แจงแบบนี้นะครับว่า ไม่ใช่เพราะผมครับที่ช่วย แพทย์ช่วยล้วนๆ แพทย์ช่วยทั้งหมด ทีมแพทย์ช่วยมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่แพทย์พยายามปั้มหัวใจคุณปอให้กลับมา จนรักษาชีวิตไว้ถึงปัจจุบัน ตอนนั้นผมยังไม่ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ จะบอกว่าผมช่วยคงไม่ได้
ผมเป็นหมอดู ก็ทักก็ทายไปตามที่จิตเห็น
ที่บอกว่าผม "ช่วย" คนนั้น คนนี้ ทั้งพี่สาวมาด ทั้งพี่ปอ ก็ใช้คำว่า "ช่วย" ทำให้สังคมตีตราตีหน้าผมว่าบังอาจมากที่ใช้คำว่า "ช่วย" ทั้งๆ ที่ไม่ได้ช่วย แพทย์ช่วยล้วนๆ ข้อนี้ถูกครับ ผมไม่ได้ช่วยอะไร เพราะไม่มีความรู้เรื่องแพทย์ ไม่ได้จบหมอ ไม่มีความรู้อะไรเลยที่จะช่วยชีวิตคน
แต่ที่ติดปากกันในกลุ่มคนติดตามผม เขาจะรู้ดีว่าคำว่า "ช่วย" นั้นมันหมายถึงช่วยอะไร ช่วยทางไหน เราไม่มีเงิน ไม่ได้ช่วยเรื่องเงิน เราไม่ใช่แพทย์ไม่ได้ช่วยเรื่องแพทย์ แต่วิธีที่ผมช่วยคือ การช่วยด้านจิตวิญญาณ สิ่งที่มองไม่เห็น เรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เรื่องเวรกรรมตามหลักศาสนาพุทธ วิธีของผม ไม่ใช่อะไรที่นอกเหนือไปจาก ทาน ศีล ภาวนา ในศาสนาพุทธ ไม่ต่างอะไรกับทุกคนในครอบครัวคุณปอที่ช่วยกันแบบนี้อยู่แล้ว ก่อนผมจะเข้าไปเสียอีก ตราบใดที่ครอบครัวคุณปอ และคนไทยหลายคนพร้อมใจกันหลับตาอธิษฐานวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย วิธีการของผมก็ไม่แตกต่างไปจากทุกคนที่ร่วมใจช่วยกันทุกทาง
ทาน ศีล ภาวนา รวมถึงการบวชเณร บวชพระ ไม่ใช่เรื่องงมงาย มันช่วยได้จริง ลดทอนวิบากกรรมได้จริง หลายท่านที่เคยผ่านประสบการณ์คนในครอบครัวเจ็บป่วยจะเป็นจะตาย ได้ล้วนเคยทำทาน รักษาศีล ภาวนาอุทิศบุญ ลดทอนวิบากกรรมของคนที่คุณรักกันมาทั้งนั้น และต่างก็พบว่าช่วยได้ไม่มากก็น้อยจริงๆ หลายคนบวชชีพราหมณ์ให้ พ่อที่โคม่าอยู่ก็ออกจากไอซีอยู่ ถือศีลสวดมนต์ให้ แม่ที่ป่วยหนักกลับหายจนหมองง ทั้งๆ ที่ความหวังริบหรี่
เรื่องแบบนี้มีกันมานมนานตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วครับ พระพุทธเจ้ายังคงสอนองคุมาลให้อธิษฐานจิตช่วยเหลือให้ผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอดที่เจ็บท้องอยู่ข้างทางใกล้จะตาย ให้คลอดง่ายปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่พระองคุลิมาลอธิษฐานขอไว้หรอกหรือ?
แต่ทางการแพทย์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด ขนาดพระพุทธเจ้ายังต้องมีท่านชีวกคอยดูแลอุปัฏฐากถวายพระโอสถ ทำแผลให้ แล้วนับประสาอะไร เราจะสวดมนต์กันอย่างเดียว แล้วจะหายป่วย หากคุณปอมานอนให้ผมอธิษฐานจิตอย่างเดียว จะไหวหรือ จะรอดไหม? บ้าไปแล้ว!
เวลาผมเจ็บป่วยก็ต้องไปนอนให้แพทย์ช่วยเหมือนกันครับ เพราะผมก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้วิเศษ
อาจกล่าวได้ว่าทางการแพทย์ช่วยเยียวยาทางด้านร่างกายสังขาร ส่วนการทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาช่วยเยียวยาในระดับจิตวิญญาณภายใน เพราะคนเราประกอบด้วยสองสิ่งจึงจะชีวิต คือ กาย กับ จิต หากกายอ่อนแอ จิตก็ทรุดตาม หากจิตอ่อนแอคิดมาก ร่างกายก็เจ็บป่วยตาม หากดีขึ้นทั้งสองอย่าง ยังไงก็เอาชนะโรคร้ายทั้งหลายได้
ผมพูดมาโดยตลอดว่าสิ่งทั้งหมดทุกเคสที่ผมเข้าไปเกี่ยวข้อง แพทย์มีหน้าที่สำคัญเท่านั้น ไม่ใช่ผม ! ผมเพียงแต่แนะให้คนทำบุญเสริมให้คนป่วย ขออโหสิกรรมต่อกรรมที่พวกเขาทำมาเท่านั้น ไม่มีอะไรนอกเหนือกว่านี้ แต่ที่สื่อตีข่าวกันออกไปมากมายกลับไม่มีคำพูดพวกนี้อยู่ เพราะแน่ล่ะว่าต้องการเขียนข่าวให้ระทึกใจคนอ่าน จนเกิดเสียงว่ากล่าวผมกันมามากมาย โดยความไม่รู้จริงนั้นของผู้เสพข่าวเอง
และมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องมาขอบคุณผม สรรเสริญผม คณะแพทย์ทุกท่านมากกว่าที่น่าจะต้องยกย่องสรรเสริญมากกว่าสิ่งอื่นใด

 

 

FBอ.แบงค์ สื่อกรรมสื่อวิญญาณ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: